ดอยผาหมี ที่เที่ยวเชียงราย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ไปเที่ยว ดอยผาหมี กันเถอะครับ!
ถ้าให้นึกถึง “ดอยผาหมี” หลายคนคงนึกถึงหมู่บ้านที่อยู่บนเขาอันไกลโพ้นนน! ซึ่งก็มีผมคนหนึ่งแหละครับที่คิดอย่างนั้น แต่มาพักหลังๆ คำว่าดอยผาหมีเริ่มมีผู้คนพูดถึงกันมากขึ้น กับหมู่บ้านท่องเที่ยวที่มีโล่ชิงช้าอันเป็นสัญลักษณ์ และกาแฟผาหมีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความตื่นเต้นอย่างที่สุด ผมจึงไม่รอช้าที่จะขึ้นไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของดอยผาหมีที่ตอนนี้ใครต่อใครต่างก็พูดถึงกัน!
ทริปนี้เริ่มต้นจากผมมีวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้ง 2 วันเต็ม ผมจึงตัดสินใจไปเที่ยวดอยผาหมี ดินแดนที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จมาเยี่ยมถึง 2-3 ครั้ง ทริปนี้ผมนัดกับน้องที่อยู่ที่ จ.เชียงราย ไว้ให้เป็นผู้นำเที่ยว พอได้วันเวลาแน่นอน ผมจึงจองตั๋วเครื่องบินโดยผมบินกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย กับไฟล์บินเวลาเช้าตรู่ ซึ่งผมชอบแอร์เอเชียก็ตรงนี้แหละครับ บินเชียงรายกับแอร์เอเชียมีเวลาให้เลือกตั้งแต่เช้ายันค่ำ ในราคาสบายใจมากๆครับ
ด้วยความที่ไฟท์บินผมนั้นเช้าตรู่มากแบบไก่โห่เลยล่ะครับ เอาเข้าจริงผมเกือบจะไม่ทันบินนะครับ เพราะผมตื่นสายมาก (ผมแอบไม่ชินกับการต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืดครับ) ดีนะครับที่แอร์เอเชียมีบริการเช็คอินในโมบายแอพ ผมจึงเช็คอินไว้ตั้งแต่ก่อนนอน พอถึงสนามบินก็รีบวิ่งเข้าสู่ Gate ได้เลยโดยไม่ต้องต่อคิวเช็คอินให้เสียเวลาอีก มันมีความง่ายมากครับเมื่อบินกับแอร์เอเชียครับ
เครื่องบินใช้เวลาบินแค่ 1 ชั่วโมง 20 นาทีก็ถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ครับ ที่เชียงรายวันนี้มีฝนตกบ้างเล็กน้อยครับ เอาเข้าจริงฝนตกตั้งแต่ผมอยู่สนามบินดอนเมืองแล้วครับ เพราะฤดูฝนแหละครับ ฝนจึงตกได้ทุกวันเวลาครับ แต่เครื่องบินที่ผมนั่งมานั้นนิ่งมากนะครับ แบบผมหลับตลอดทางได้สบายใจเลยครับ! รู้ตัวอีกทีคือล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงรายแล้วครับ
เมื่อถึงสนามบิน น้องชายที่ผมนัดไว้ก็มารอรับผมเรียบร้อยแล้วครับ หลังจากนั้นพวกผมก็ออกเดินทางไป ดอยผาหมี กันเลย
ระยะทางจากสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงรายไปดอยผาหมีนั้นประมาณ 60 กิโลเมตรได้ครับ สำหรับดอยผาหมีนั้นจะตั้งอยู่ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ครับ ให้เราขับรถไปตามถนนพหลโยธินมุ่งหน้าสู่ชายแดนแม่สายครับ จุดสังเกตง่ายๆของดอยผาหมีคือ ถนนขึ้นดอยผาหมีนั้นจะอยู่ถัดไปจากร้านจันกะผักเลยครับ พอถึงร้านจันกะผักก็เลี้ยวซ้ายขึ้นไปเลย ระยะทางจากร้านจันกะผักถึงดอยผาหมีเพียงแค่ 5.5 กิโลเมตรครับ เมื่อเราขับขึ้นมาตามทางเรื่อยๆก็จะเจอกับรูปปั้นหมีตั้งตระหง่านอยู่ข้างทาง เป็นสัญลักษณ์บอกว่าเรามาถึงหมู่บ้านผาหมีแล้วครับ
พวกผมขับรถตามทางขึ้นไปเรื่อยๆ มาถึงจุดๆนี้ทางจะเริ่มชันสูงขึ้น ถนนกว้างบ้างแคบบ้างสลับกันไปครับ ข้างบนนี้จะมีจุดแวะชมให้ถ่ายรูปมากมายตลอดเส้นทาง หากใครชอบวิวสองข้างทางก็แวะตามทางได้เลยครับ หรือใครชอบวิวแบบหมู่บ้านๆก็แวะได้ตามหมู่บ้านครับ แต่หากใครจะตามรอยพระราชกรณียกิจของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ของเรา ก็แวะได้ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวครับ
สำหรับผมนั้นจะแวะถ่ายรูปเป็นพักๆครับ วิวที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ วิวบ้านผาหมีท่ามกลางหุบเขา ซึ่งมันสวยมากๆเลยครับ
พวกผมขับรถตามทางขึ้นไปเรื่อยๆครับ ทางก็จะเริ่มชันขึ้นและแคบลงบ้างครับ จนสุดท้ายก็ขึ้นมาถึงจุดชมวิวลานโล่ชิงช้าซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากร้าน O2 Phamee Coffee House ครับ พวกผมตัดสินใจจอดรถไว้ที่ร้านและเดินขึ้นไปที่ลานชมวิวกันก่อนครับ ที่บนจุดชมวิวนั้นมีลานกางเต้นท์ด้วยนะครับ หากใครอยากกางเต้นท์ผมแนะนำเป็นช่วงฤดูหนาวครับ หรือใครจะพักแบบโฮมสเตย์ท่ามกลางทะเลหมอก ผมก็แนะนำที่ O2 Phamee เลยครับ หรือจะพักที่ บูซอ โฮมสเตย์ ซึ่งขับรถตรงไปตามทางนี้แหละครับอีกแค่ 400 เมตร ก็ได้ครับ
1) จุดชมวิวลานโล่ชิงช้า ดอยผาหมี
หลังจากจอดรถกันแล้ว พวกผมก็เดินขึ้นมาบนจุดชมวิวลานโล่ชิงช้ากันก่อนเลยครับ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะครับ! ระยะทางแค่ประมาณ 100 เมตรเองครับ แต่ด้วยความที่มันสูงและชันมากครับ เราจึงต้องใช้พลังงานที่สูงมากในการเดินขึ้นครับ แต่ก็คุ้มค่ามากนะครับ เพราะบนลานชมวิวนี้สวยมากครับ สามารถมองเห็นวิวด้านล่างแบบ 180 องศาได้เลยครับ
บนจุดชมวิวนี้ หากใครมาเที่ยวช่วงฤดูหนาว ก็จะได้พบกับทะเลหมอกที่อยู่เบื้องล่าง ขาวนวลสะอาดตา ตัดกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่กำลังโผล่ขึ้นมาจากทะเลหมอก เป็นมุมที่สวยงามอีกมุมหนึ่งเลยครับ และข้างๆกันนั้นจะมีโล่ชิงช้าตั้งตระหง่านสูงและใหญ่มาก อยู่ท่ามกลางวิวเบื้องล่างที่สวยงามครับ ลองจินตนาการดูกันนะครับว่า หากเรานั่งชิงช้านี้แล้วแกว่งแบบสูงๆจะฟินและเสียวขนาดไหน! แต่ก็น่าเสียดายมากครับ เพราะช่วงที่ผมมานั้นยังไม่มีเทศกาลเล่นโล่ชิงช้าของชาวผาหมีครับ หากใครอยากลองเล่นโล่ชิงช้าแล้วล่ะก็ ให้เช็คตารางเทศกาลโล่ชิงช้าและมาตามตารางเทศกาลได้เลยครับ
และเมื่อมาถึงแล้ว พวกผมก็ขอเช็คอินถ่ายรูปคู่กับ @ดอยผาหมี กันหน่อยครับ
2) ร้านกาแฟออกซิเจนผาหมี (O2 Phamee Coffee House)
พวกผมอยู่บนลานชมวิวกันนานมากก็เริ่มอยากจิบชาและดื่มกาแฟของดอยผาหมีกันแล้วล่ะครับ พวกผมจึงเดินกลับลงมาที่ร้านกาแฟออกซิเจนผาหมี (O2 Phamee Coffee House) ที่ได้จอดรถไว้ตอนแรกครับ
ร้านนี้อยู่ใต้ลานชมวิวนิดหน่อยครับ ตัวร้านนั้นจะมี 3 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นเค้าเตอร์สั่งเครื่องดื่ม ผมขอแนะนำให้ลองทุกเมนูกาแฟครับ เพราะกาแฟที่นี่เขาปลูกกันเองบนดอยผาหมีเลยครับ เรียกง่ายๆว่ากาแฟผาหมีนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกครับ ประวัติคร่าวๆก็คือ อย่างที่เรารู้กันว่าเมื่อก่อนดอยผาหมีนั้นเป็นแหล่งของยาเสพติด แต่เมื่อรัชกาลที่ 9 ของเราเสด็จมาเยี่ยมเยียน จึงอยากผลักดันให้ชาวบ้านไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเหล่านั้น ท่านจึงสอนชาวบ้านให้ทำมาหากินแบบสุจริต และหนึ่งในนั้นคือการปลูกต้นกาแฟที่ตอนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในนามของ กาแฟผาหมี ครับ
ตัวร้านนั้นจะเน้นการตกแต่งด้วยปูนเปลือยซึ่งมีความอาร์ตมากๆครับ และบริเวณชั้นแรกนั้นก็จะมีมุมให้นั่งกินชากาแฟอยู่โต๊ะสองโต๊ะครับ
ที่นี่เขาดัดแปลงเอากระป๋องนมข้นขนาดต่างๆมาวาดลวดลายสำหรับใส่ซองน้ำตาลและซองคอฟฟี่เมตวางไว้ให้บริการด้วยครับ หรือเอาไว้ปลูกต้นไม้เล็กๆก็สวยไปอีกแบบครับ
พวกผมเดินขึ้นมาชั้น 2 บ้างครับ ชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโต๊ะและบาร์นั่งกินชากาแฟที่มีแบล็คกราวน์เป็นวิวของหมู่บ้านผาหมีทั้งหมดครับ วิวสวยมากครับจนผมตกหลุมรักวิวนี้ไปเลยครับ เมื่อผมกินกาแฟเสร็จ ผมก็สั่งชาร้อนมานั่งจิบต่อบนบาร์นี้แหละครับ บรรยากาศเย็นๆในฤดูฝนบวกกับการได้มานั่งมองวิวนี้แล้วสดชื่นมากครับ เป็นการพักผ่อนและการผ่อนคลายที่งดงามและสบายใจสุดๆไปเลยครับ
ที่นี่มีฟรี Wifi ให้เล่นแบบจุใจมากครับ และที่นี่นอกจากจะเป็นร้านกาแฟแล้วเขายังทำเป็นโฮมสเตย์เล็กๆด้วยครับ เผื่อใครอยากค้างคืนใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ครับ
พวกผมเดินขึ้นมาชั้น 3 ของร้านบ้างครับ ข้างบนนี้จะเป็นลานกว้างๆให้เราได้ชมวิว ถ่ายรูป และเซลฟี่กันครับ วิวข้างล่างที่เราจะมองเห็นนั้นจะเป็นบ้านเรือนของชาวผาหมีคล้ายๆกับวิวชั้น 2 ครับ แต่มุมข้างบนนี้ก็จะมองได้ 180 องศาเลยครับ สวยไปอีกแบบนะครับ
พวกผมนั่งชิวอยู่ที่ร้านกาแฟกันนานมากครับ มารู้ตัวอีกทีคือเป็นเวลา 4 โมงเย็นแล้วครับ สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับกันก่อนดีกว่าครับ จะได้กลับไปพักผ่อนต่อครับ คืนนี้ผมอาศัยนอนบ้านของน้องชายครับ และพรุ่งนี้ก็คงตื่นสายๆ กินอาหารเมืองเหนือซักมื้อ หาซื้อของฝาก และบินกับกรุงเทพฯครับ เอาเป็นว่าผมขอจบการรีวิว ดอยผาหมี ที่เที่ยวเชียงราย ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ บอกได้คำเดียวเลยครับว่า ทริป ดอยผาหมี นี้ ผมโคตรประทับใจครับ!
เพื่อนๆสามารถติดต่อสอบถามที่พักของร้านกาแฟออกซิเจนผาหมี (O2 Phamee Coffee House) ได้ที่ Facebook @O2phamee Coffee หรือโทร 087-727-6733 หรือติดต่อสอบถามงานประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเวียงพางคำ โทร 053-646-569 ก็ได้เหมือนกันครับ
หรือหากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ที่เที่ยว (ประเทศไทย) ของ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่