Blue Elephant ร้านอาหารไทยสุดหรูใจกลางสาทร

หากพูดถึงอาหารไทยแล้วล่ะก็ ต้องยอมรับว่า ร้านอาหาร Blue Elephant เป็นร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่พูดถึง แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อมาไทยยังต้องมาลิ้มลองรสชาติอาหารไทยขนานแท้ ถึงกับพูดกันว่าหากใครมาไทยแล้วไม่ได้กินอาหารไทยของร้านอาหาร Blue Elephant จะถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองไทยเลยนะเอ่อ! วันนี้โอกาสดีที่เรามีเวลาว่างหลังเลิกงาน จึงขอใช้โอกาสนี้ไปดื่มด่ำกับความอร่อยของอาหารไทยบนร้านอาหารสุดหรู Blue Elephant สาทร กันซะหน่อย!

เริ่มต้นด้วยบรรยากาศร้านอาหาร Blue Elephant …

ร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ตั้งอยู่บนถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร การเดินทางมาที่นี่นั้นจะขับรถมาเองก็ได้ ที่นี่มีที่จอดรถให้บริการทั้งด้านหน้าและด้านข้างของตัวตึก หรือใครจะนั่ง BTS มาก็สะดวกมาก พอควร ซึ่งตัวร้านอาหารนั้นจะตั้งอยู่ติดกับสถานีสุรศักดิ์เลย

ตัวตึกของร้านอาหารนั้นถูกตกแต่งในสไตล์โคโลเนียลที่ได้ประยุกต์ความเป็นไทยมาผสมผสานรูปแบบของตะวันตกไว้อย่างลงตัว ตัวตึกจะมีสีเหลืองอร่าม ยิ่งถูกประดับประดาด้วยไฟสีเหลืองจ้ายิ่งทำให้มีความโดดเด่นมากขึ้น ภายในภัตตาคารนั้นจะมีทั้งหมด 3 ชั้น แบ่งเป็นชั้นทานอาหาร 2 ชั้นและโรงเรียนสอนทำอาหาร 1 ชั้น แอบเกริ่นก่อนว่าที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ภัตตาคารนั่งทานอาหารเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยและส่งออกพริกแกงของไทยในแบรนด์บลูเอเลเฟ่นท์อีกด้วย!

บรรยากาศภายในชั้น 1 นั้นจะเป็นแผนกต้อนรับของร้านอาหาร ห้องทานอาหาร และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ด้านข้างฝาผนังจะติดรางวัลการันตีความอร่อยของทางร้านอาหารไว้มากมายรวมถึงภาพถ่ายของบุคคลสำคัญต่างๆที่ได้ให้เกียรติมาทานอาหาร ณ ที่นี่อีกด้วย

บริเวณชั้น 2 นั้นจะถูกประดับประดาด้วยโคมไฟขนาดใหญ่ตระการตา แบ่งเป็นโซนทานอาหารและห้องทานอาหารส่วนตัวรวมไปถึงเป็นบริเวณของบาร์นั่งจิบเครื่องดื่มต่างๆอีกด้วย ซึ่งภายในบาร์นั้นจะเน้นการตกแต่งด้วยสีน้ำเงินสดใส ให้ความรู้สึกครึกครื้นมากพอควร ที่นี่จะมีเครื่องดื่มต่างๆไว้ให้บริการมากมาย ใครชอบดริ้งไหนสั่งจิบได้ตามใจชอบเลยจ้า

บริเวณชั้น 3 ของร้านอาหารจะเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารของบลูเอเลเฟ่นท์อีกด้วย ที่นี่มีทั้งห้องเรียนทฤษฎีต่างๆและมีห้องฝึกปฏิบัติการทำอาหารที่มีเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับทำอาหารต่างๆอย่างครบครับ เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยระดับชั้นนำของประเทศเลยก็ว่าได้

ร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์นั้นมีสาขาต่างๆมากมายทั่วโลก โดยในไทยนั้นจะมีอยู่ 2 สาขา คือ สาขาสาทร กรุงเทพฯ และสาขาภูเก็ตนั่นเอง

โต๊ะอาหารหรูหราสีทองตระการตา…

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของที่นี่สวยและหรูหรามาก โต๊ะอาหารและเก้าอี้ทุกตัวจะเน้นทำจากไม้สีน้ำตาลดำ ที่บนเก้าอี้และโต๊ะจะถูกวางเบาะนวมและผ้าปูโต๊ะสีขาวม่วงตัดกันสวยงามมากจริงๆ ให้อารมณ์ย้อนยุคอย่างบอกไม่ถูก ไฮไลท์อยู่ที่ความหรูหราของจาน ชาม ช้อนและส้อม ที่มีสีทองระยิบระยับตระการตา หรูหราและสง่างามมากเหลือเกิน

เริ่มต้นอาหารด้วย BEVERAGE…

เราเปิดเมนูอาหารและสั่งเครื่องดื่มก่อนเลย เราขอแนะนำ “น้ำส้มคั้น” ของที่นี่นั้นอร่อยมากๆ ที่นี่เน้นการคั้นน้ำส้มจากผลส้มจริงๆโดยไม่ผสมและปรุงแต่งรสชาติใดๆเลย เราจะได้กลิ่นของส้มและเปลือกส้มดื่มแล้วชื่นอกชื่นใจได้อารมณ์ผ่อนคลายมากทีเดียว

AMUSE BOUCHE…

เมนูจานแรกเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย “พล่ากุ้งมังคุด” ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูสุดพิเศษจากเชฟมอบเป็นของขวัญให้กับทุกคนที่มานั่งทานอาหารในร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์แห่งนี้ บอกก่อนว่าเมนูนี้ฟรี สามารถเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี เราตักกินคำหนึ่งได้รสชาติยำที่อร่อยกลมกล่อมพอดี ทำเอาต่อมน้ำลายพุ่งปรี้ดปร๊าดเสมือนกำลังกินมะขามเปรี้ยวยังไงยังงั้น!

STAETERS…

เมนูถัดไปเป็นเมนูอาหารว่าง “ปอเปี๊ยะกุหลาบไก่บ้าน” เมนูนี้มีสีสันและหน้าตาที่สวยงามและน่ากิน โดยแผ่นปอเปี๊ยะของที่นี่จะบางและกรอบมากถูกม้วนให้เป็นรูปดอกกุหลาบมาห่อหุ้มเนื้อไก่บ้านที่สับละเอียดและหมักมาอย่างดี เมื่อนำมาราดกับน้ำจิ้มปอเปี๊ยะซักเล็กน้อย อร่อยถูกใจมากทีเดียว!

เมนูอาหารว่างถัดไปเป็น “ทอดมันกุ้งกับยำส้มโอ” เมนูนี้ค่อนข้างแปลกและหากินได้ยากพอสมควร ทอดมันกุ้งของที่นี่จะใช้เนื้อกุ้งแท้ๆชุบแป้งและเกล็ดขนมปังเล็กน้อยกรุ๊บกรอบได้ใจมาก ไฮไลท์อยู่ที่การกินยำส้มโอเป็นเครื่องเคียง รสชาตินั้นจะมีความเป็นยำผสมกับเนื้อกุ้งเหนียวๆกรอบๆ ถือว่าอร่อยมากๆเลยแหละ!

MAIN DISHES…

หมดเมนูอาหารว่างมาเป็นเมนูอาหารจานหลักกันบ้าง เมนูนี้เราสั่ง “ฉู่ฉี่กุ้งลายเสือ” มาชิมก่อนเป็นอันดับแรก แอบบอกก่อนว่าเรานั้นเป็นคนชอบกินฉู่ฉี่กุ้งเป็นชีวิตจิตใจเลยก็ว่าได้ สำหรับเมนูจานนี้เราให้ 3 ผ่านเลยล่ะ รสชาตินั้นเป็นฉู่ฉี่ที่อร่อยกลมกล่อมมาก มีความหอมหวานมันและเผ็ดกำลังดี ยิ่งกินคู่กับกุ้งลายเสือตัวโตๆเนื้อแน่นๆเหนียวๆกรอบๆด้วยแล้วล่ะก็ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!

ถัดไปเป็นเมนู “แสร้งว่ากุ้งแม่น้ำปลาดุกย่าง” เมนูนี้อร่อยและแปลกใหม่พอสมควร โดยเริ่มจากการนำกุ้งแม่น้ำตัวโตๆไปย่างจนพอดี ราดด้วยยำปลาดุกย่างที่รสชาติกินคู่กับกุ้งย่างได้เป็นอย่างดี มีผักต่างๆชุดแป้งทอดกรอบเป็นเครื่องเคียงให้ด้วย เมนูนี้อร่อยจนเราขอแนะนำว่าต้องลองกินให้ได้ซักครั้งในชีวิต!

เมนูที่ 6 เป็น “ปลาหิมะทอดขมิ้นน้ำปลาหวาน” เมนูนี้หากินได้ยากมากในร้านอาหารไทยทั่วๆไป ที่นี่จะใช้ปลาหิมะเกรดดีที่เนื้อจะเหนียวและแน่นมาก นำมาหมักกับขมิ้นและทอดจนเหลืองพอดี ราดด้วยน้ำยำรสชาติหวานๆเปรี้ยวๆคล้ายๆเรากินไข่ลูกเขยนั่นเองแต่อร่อยกว่ามาก หากฉีกพริกแห้งทอดโรยซักเล็กน้อยจะให้รสชาติเผ็ดหน่อยๆ อร่อยมากทีเดียว!

ถัดไปเป็นเมนู “อกเป็ดอบซอสมะขาม” เมนูนี้ไม่เหมือนใคร ที่นี่เน้นการนำอกเป็ดไปอบแบบพอดีๆ เนื้อเป็ดนั้นจึงนุ่มๆหอมๆน่ารับประทาน ราดด้วยซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ กินคู่กับใบกระเพราทอดกรอบและน้ำจิ้มเป็ดซักเล็กน้อย อร่อยอย่าบอกใครเชียว!

อาหารทุกเมนูของที่นี่จะถูกเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยและข้าวกล้องร้อนๆ โดยจะมีพี่ๆบริการตักให้ถึงที่และเติมได้ไม่อั้น บอกก่อนว่าข้าวที่นี่เป็นข้าวเกรด A เมื่อนำมาหุงต้มจะได้เป็นเม็ดที่สวยมากและอร่อยด้วย บอกได้เลยถึงความเอาใจใส่ในการบริการ เรียกได้ว่าบริการทุกระดับประทับใจจริงๆ

DESSERT…

มาถึงเมนูของหวานกันมั่ง เมนูนี้เราสั่ง “Star of Siam” เป็นเมนูของหวานที่เน้นของหวานไทยชนิดต่างๆเสิร์ฟพร้อมกันในจานเดียว โดยจะมีไอศกรีมมะลิให้ 1 ลูก กินคู่กับข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวานไทย ฝอยทอง Coconut Flan และ Mango Cheesecake ถือว่าเป็นจานที่รวบรวมดาวเด่นด้านขนมหวานไทยเลยก็ว่าได้

กินอิ่มแล้วอย่าลืมสั่ง “ชาตะไคร้” มาจิบล้างปากกันซะหน่อย บอกก่อนว่าชาที่นี่นุ่มมาก แม้เราเป็นคนไม่ค่อยชอบทานชาซักเท่าไหร่เพราะมันขม แต่พอได้ชิมแล้วถึงกับชอบขึ้นมาเลยทีเดียว เพราะชาที่นี่นั้นให้กลิ่นหอมละมุนของตะไคร้ในถ้วยชาร้อนๆ เวลาจิบแล้วได้อารมณ์สดชื่นและผ่อนคลายมากพอสมควร เปลี่ยนให้เราเป็นคนชอบทานชาเลยก็ว่าได้!

เมื่อทุกคนอิ่มแล้ว เราก็เช็คบิลและกลับบ้านกัน ก่อนกลับที่หน้าประตูจะมีพี่ๆพนักงานมอบช่อดอกกล้วยไม้ให้เรา 1 ช่อแทนคำขอบคุณต่างๆที่เราได้มอบให้บลูเอเลเฟ่นท์ เรารู้สึกประทับใจมากถึงการบริการที่ดีเลิศมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังได้ทานอาหารไทยอร่อยๆที่หาทานได้ยากแล้วในปัจจุบันหลายต่อหลายเมนูอีกด้วย เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงมีผู้คนแวะมาทานอาหารตลอดอย่างไม่ขาดสาย ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติก็เช่นกันที่เข้ามาเยี่ยมเยียน นี่แหละมนต์เสน่ห์ของอาหารไทยที่หากใครๆได้ลิ้มลองแล้วมักจะติดใจกันทุกคน!

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

ร้านอาหาร Blue Elephant

เลขที่ 223 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา
เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์ 02-6739353-4
เว็ปไซค์ | คลิกที่นี่
Facebook | คลิกที่นี่

หากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ร้านอาหาร ของ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่