ที่เที่ยวเขาใหญ่ ไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เที่ยวที่ไหนกันดี?
ไป กัน มา ยัง ขอแนะนำ 8 ที่เที่ยวเขาใหญ่ ที่หากใครได้มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานฯที่ตั้งอยู่ใน 10 อำเภอ 4 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา จ.ปราจีนบุรี จ.นครนายก และ จ.สระบุรี ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เพราะพื้นที่ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งถือเป็นมรดกทางธรรมชาติ รับรองโดยยูเนสโก และยังได้รับสมญานามว่าเป็น อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียนอีกด้วย!
หากถามว่า ที่เที่ยวเขาใหญ่ นั้นมีอะไรบ้าง? เราบอกได้เลยว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น มีทั้งภูเขา ป่าไม้ น้ำตก และสัตว์ป่า รวมถึงมีช้างไล่เหยียบรถยนต์อีกด้วย (ฮ่าๆ ขำๆกันหน่อยน๊า) ซึ่งทั้งหมดที่เรากล่าวมานั้นก็มีครบหมดที่เขาใหญ่ ถือได้ว่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ของเรานั้นยังคงเป็นแหล่งธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดก็ว่าได้!
1) จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 – ที่เที่ยวเขาใหญ่
จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 อยู่บริเวณเส้นทางที่เรากำลังขับรถขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่จะจะเป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่กว้างใหญ่มองได้ไกลสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศดี อากาศเย็นสบาย บริเวณนี้จะมีป้ายหินบ่งบอกว่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ของเรานั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ซึ่งรับรองโดยยูเนสโก ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน!
ที่จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 เราสามารถมองเห็นวิวธรรมชาติต่างๆที่เขียวขจีได้มากกว่า 180 องศา บริเวณนี้จะมีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจว่าใครต่อใครต้องจอดรถแวะชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติก่อนขึ้นเขาใหญ่กันทุกคน!
2) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น จะประกอบไปด้วยสำนักงานต่างๆ เช่น สำนักงานที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์ฝึกอบรมคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ ร้านค้า ร้านอาหาร และลานกลางเต้นท์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งในบริเวณอุทยานฯแห่งนี้ค่อนข้างร่มรื่น มีลานกว้างขวางเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ปูเสื่อปิกนิก และมีศูนย์อาหารเขาใหญ่สำหรับทานอาหารร่วมกันอีกด้วย
บริเวณริมคลองลำตะคองนั้นจะมีลานไม้กว้างๆสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพัก เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และที่บริเวณนี้มักจะมีกวางออกมาเดินหาอาหารกินตลอดเวลา กวางที่นี่ไม่ดุร้าย คุ้นเคยและเป็นมิตรกับผู้คนและนักท่องเที่ยว แต่เราไม่ควรให้อาหารกวางและสัตว์ป่าอื่นๆนะ ที่นี่มีป้ายเตือนติดเต็มไปทั่ว! เพราะมันจะทำให้กวางหรือสัตว์ป่าอื่นๆไม่ยอมออกล่าหาอาหาร จะทำให้ระบบนิเวศน์เสียสมดุลไปหมด
3) น้ำตกกองแก้ว – ที่เที่ยวเขาใหญ่
น้ำตกกองแก้ว เป็นน้ำตกที่อยู่ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลย สามารถเดินตามป้ายไปได้เรื่อยๆแค่ 100-200 เมตรเอง ไม่ไกลเท่าไหร่ มีทางเดินและป้ายบอกทางตลอดทาง อาจมีเดินขึ้นลงเนินเล็กๆบ้าง บรรยากาศเย็นสบายตลอดทาง!
น้ำตกกองแก้ว เป็นน้ำตกเตี้ยๆในคลองลำตะคองนั่นเอง แต่วันนี้ที่เรามานั้นเป็นฤดูฝน น้ำในคลองจึงเยอะมาก เลยดูไม่ค่อยเห็นว่าเป็นน้ำตกไหลลงโขดหินถัดๆกันไป จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือมีสะพานไม้ที่สามารถเดินข้ามไปได้อีกฝั่ง เราสามารถไปถ่ายรูปบนสะพานไม้นั้นซึ่งจะได้มุมถ่ายรูปที่สวยงามมากอีกมุมหนึ่ง!
4) น้ำตกเหวสุวัต – ที่เที่ยวเขาใหญ่
จากที่ทำการอุทยานฯ เราขับรถไปตามถนนเรื่อยๆ ก็จะพบกับ น้ำตกเหวสุวัต ซึ่งตั้งอยู่บนสุดถนนธนะรัชต์ เพื่อนๆไม่ต้องกลัวหลงทาง ให้ขับรถมาตามถนนเรื่อยๆก็จะถึงเอง มีป้ายบอกตลอดทาง ที่นี่มีลานจอดรถให้เยอะมาก และเมื่อลงรถแล้วก็สามารถเดินเข้าไปชมน้ำตกได้เลย ระยะทางเดินแค่ 200 เมตรเอง!
น้ำตกเหวสุวัต จะมีจุดชมวิวให้ชมน้ำตกอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือ ส่วนที่อยู่บนหน้าผา และบริเวณด้านล่างของน้ำตก เราตัดสินใจเดินไปดูส่วนที่อยู่บนหน้าผากันก่อนเลย บริเวณนี้มันแอบหวาดเสียวนิดหน่อย เพราะมันสูงและชันมาก มีโขดหินเต็มไปหมด จุดนี้เป็นจุดชมน้ำตกมุมสูงให้ความรู้สึกเหมือนเหวลึก เด็กๆควรมีผู้ปกครองไปด้วยนะ บริเวณนี้ค่อนข้างอันตราย!
จุดชมน้ำตกอีกจุดหนึ่งจะอยู่บริเวณด้านล่างของน้ำตก ที่นี่เขาสร้างบันไดเล็กๆให้เราเดินไปด้านล่างของน้ำตกได้ค่อนข้างสะดวกมาก แต่บันไดนั้นค่อนข้างชันพอสมควร เดินขึ้นลงเล่นเอาหอบเหนื่อยได้เหมือนกัน!
น้ำตกเหวสุวัต มีลักษณะเป็นสายน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร มีเรื่องเล่ากันมาว่า ชื่อของน้ำตกเหวสุวัตนี้ เกิดจากโจรชื่อสุวัต หนีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาจนมุมยังน้ำตกแห่งนี้ เลยตัดสินใจกระโดดลงมายังแอ่งน้ำเบื้องล่างที่เราเห็นนี่เอง
บริเวณด้านล่างของน้ำตกนั้นจะเป็นแอ่งน้ำและลำธาร อากาศเย็นสบายใจ สามารถลงเล่นน้ำได้นะ แต่ช่วงที่เรามานั้นเป็นฤดูฝน น้ำเยอะและไหลแรงมากพอสมควร ทางอุทยานฯจึงติดป้ายไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ แต่น้ำเย็นมากนะ เราเอามาล้างมือล้างแขนดู ขนแขนลุกซู่เลยทีเดียว!
5) บ่อน้ำผุด – ที่เที่ยวเขาใหญ่
เมื่อถึงควรแก่เวลา เราตัดสินใจออกจากน้ำตกเหวสุวัตไปแวะชม บ่อน้ำผุด ที่บ้านท่าช้าง อยู่บริเวณด้านล่างของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กันต่อเลย!
เราขอพาไปดูแหล่งน้ำผุดกันก่อนเลย ซึ่งมันอยู่ที่ต้นทางของน้ำนั่นเอง บ่อน้ำผุดของที่นี่ เป็นบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีแนวรั้วกั้นไม่ให้ลงเล่นน้ำ หากสังเกตดีๆจะพบว่ามีน้ำลอยปุดๆขึ้นมาจากพื้นดิน ความใสของน้ำเกิดจากการที่น้ำใต้ดินไหลผ่านการกรองจากชั้นหินใต้ดิน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูงมากๆ ทำให้น้ำจึงใสอย่างที่เห็น และน้ำสีฟ้าเขียวที่เราเห็นกันนั้นก็เป็นเพราะน้ำที่ผุดออกมานั้นมีความเป็นด่างนั่นเอง น้ำจึงสวยใส ชวนให้ผู้คนและนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำกัน!
เราตั้งใจไว้ว่าการมาบ่อน้ำผุดที่นี่เราจะเจอกับน้ำใสๆสีเขียวฟ้าเหมือนในรูปที่คนอื่นๆเขาถ่ายกันมา พอมาถึงเราก็เจอจริงๆ สีของน้ำนั้นจะออกสีฟ้าเขียวมากๆ เห็นคนคุยกันบอกว่าถ้าอยากเห็นความใสจริงๆต้องมาช่วงที่คนยังไม่ลงเล่นน้ำจะใสและเขียวมาก ช่วงนี้มีคนมาเล่นน้ำกันเยอะแล้วเลยไม่ใสเท่าที่ควร แต่นี่ขนาดมีคนลงไปเล่นแล้วนะเราว่ายังสวยเลย ถ้าปลอดคนคงต้องสวยมากจริงๆ
6) ครัวเขาใหญ่ – ที่เที่ยวเขาใหญ่
ไม่ไกลจากบ่อน้ำผุด จะมีร้านอาหารขึ้นชื่อประจำเขาใหญ่อยู่ร้านหนึ่ง ชื่อ ครัวเขาใหญ่ ร้านนี้มีเมนูชื่อดังอยู่เมนูหนึ่ง คือ แฮมซี่โครงอ่อน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมร้านนี้คนจึงเยอะมาก ยืนรอคิวโต๊ะกันยาวเหยียด!
มาที่นี่ใครไม่สั่งเมนูนี้เหมือนยังมาไม่ถึง นั่นก็คือ แฮมซี่โครงอ่อน นั่นเอง เมนูนี้เป็นเมนู Signature ของร้านเขาเลยล่ะ ด้วยเนื้อหมูติดมันย่างพอนุ่มๆ กินแล้วแทบจะละลายในปากเลย อร่อยมากๆ เราชอบมากด้วย แต่หากใครไม่ชอบเนื้อติดมันก็ให้สั่งแฮมซี่โครงแก่แทน เพราะเมนูนี้จะเน้นแบบเนื้อๆ มันน้อยๆ แล้วแต่ว่าใครจะชอบเมนูแบบไหนก็สามารถเลือกทานกันได้เลย!
และอีกเมนูหนึ่งที่เราขอแนะนำ นั่นก็คือ แฮมสันนอก เนื้อแฮมของที่นี่จะออกหนาๆ แต่ตัวเนื้อจะออกนุ่มๆ เหนียวหน่อยๆ รสชาติจะออกเค็มอมเปรี้ยวเล็กน้อย เราว่ารสชาติถูกปากเรามากเลยล่ะ! ใครมาที่นี่ลองสั่งมาทานเล่นกันก็ยังได้!
7) Primo Piazza – ที่เที่ยวเขาใหญ่
ไม่ไกลจากครัวเขาใหญ่ เรามาต่อกันที่ Primo Piazza สถานที่ที่จำลองสถาปัตยกรรมจากหมู่บ้านโบราณที่มีอายุมากกว่า 500 ปี ในแคว้นทัสกานี ของประเทศอิตาลี มาให้เราชม โดยบริเวณด้านในนั้นเรายังสามารถให้อาหารเหล่าปุกปุยต่างๆทั้ง 3 ชนิด คือ อัลปาก้า เมอริโน่ และดองกี้ นั่นเอง โดยที่นี่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตูนะ แต่บัตรเหล่านี้เราสามารถเอาไปลดเป็นค่าอาหารด้านในได้ 10% เลยแหละ!
บริเวณข้างในนั้นจะมีความเป็นอิตาลีทั้งหมด สถาปัตยกรรมทุกอย่างจะเป็นแนวยุโรปซึ่งมีความสวยและคลาสสิคมาก ที่นี่มีร้านขายของที่ระลึก มีร้านกาแฟ ร้านเค้ก และร้านไอศกรีมอร่อยๆหลายร้าน ซึ่งถ้าใครมาช่วงเวลาเย็นที่แดดไม่ร้อนมาก เราแนะนำให้นั่งจิบกาแฟกับเค้กอร่อยสักก้อนสองก้อนบนลานเพียซซ่า จะดีสุดๆไปเลย!
เราเดินออกมาจากลานเพียซซ่าเพื่อมาชมสวนและฟาร์มกันบ้าง โดยสนามหญ้าบริเวณนี้เขาจะปล่อยเหล่าปุกปุยต่างๆให้ออกมาวิ่งเล่นด้วย แต่ก่อนอื่นเราขอแวะไปให้อาหารเหล่าปุกปุยทั้งหลายใน Barn กันก่อนเลย!
และนี่คือเจ้าอัลปาก้า ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงในตระกูลอูฐ มีลักษณะคล้ายคลึงกับตัวยามา โดยเจ้าอัลปากานั้นมันจะชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงๆ พบได้ในที่สูงบริเวณแถบเทือกเขาแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้ คือ ตอนใต้ของประเทศเปรู ตอนเหนือของประเทศโบลิเวีย ประเทศเอกวาดอร์ และตอนเหนือของประเทศ ชิลีนั่นเอง ซึ่ง Primo Piazza ได้เอาฝูงอัลปาก้านี้มาจากประเทศออสเตรเลีย เห็นว่าขนของมันสามารถเอามาทำเป็นเสื้อผ้าต่างๆได้ด้วย
เขาบอกว่า เมอริโน่ เป็นแกะ ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศตุรกีและทางตอนกลางของประเทศสเปน เมอริโน่นั้นมันเป็นแกะพันธุ์ขนที่ให้คุณภาพดีและนุ่มมาก ซึ่งถือว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่สำคัญและมีชื่อเสียงในทวีปออสเตรเลียเลยทีเดียว สำหรับ Primo Piazza ได้เอาฝูงเมอริโน่นี้มาจากประเทศออสเตรเลียเช่นเดียวกับอัลปาก้า
เรารู้มาว่าเมอริโน่ตัวผู้นั้น จะมีเขาใหญ่ๆควงแบบสว่าน แต่ตัวเมียนั้นจะไม่มีเขา เจ้าเมอริโน่นั้นมันกินได้ตลอดเวลา เราป้อนหญ้าให้จนหมดมันก็ยังจะกินได้อีก น่ารักจังเลย!
และปุกปุยตัวสุดท้ายก็คือ ดองกี้ ซึ่งมันก็คือลา นั่นเอง ดองกี้เป็นสัตว์สี่เท้าซึ่งมีกีบเท้าแบบเดี่ยวๆ ในคอกนี้เหมือนเราจะเห็นดองกี้แค่ 2 ตัวนะ มันชอบยืนเศร้าๆ เราเลยต้องหาอะไรให้มันกิน แต่พอมันกินเสร็จก็ยืนเศร้าอีก มันคงคิดถึงบ้านนะเราว่า!
8) ฟาร์มโชคชัย – ที่เที่ยวเขาใหญ่
ไม่ไกลจาก Primo Piazza ก็จะถึง ฟาร์มโชคชัย เราออกจาก Primo Piazza ขับรถต่อมาที่ฟาร์มโชคชัย ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึง
ที่นี่เราซื้อทัวร์ชมฟาร์มไว้ช่วงเวลา 14.00 น. พอถึงเวลาทัวร์ ก็จะมีพี่คาวเกิร์ลสุดสวยนำพาคณะทัวร์ของเราไปชมวิดีทัศน์แนะนำฟาร์มโชคชัยกันก่อนเลย ซึ่งในวิดีทัศน์จะบอกถึงประวัติของฟาร์มโชคชัยตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ของฟาร์มโชคชัยต่างๆด้วย ที่นี่เราได้รู้จักเพลงฟาร์มโชคชัยด้วยนะ ฟังเพลงแล้วก็เพราะเหมือนกัน!
หลังจากนั้นพี่คาวเกิร์ลคนสวยก็พาเรามาล้างมือในน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าชมฟาร์ม จุดแรกที่พี่คาวเกิร์ลพามานั่นก็คือ Super Gene เป็นจุดโชว์ตัวพ่อพันธุ์โคนมของฟาร์มโชคชัยที่คัดเลือกพันธุ์มาอย่างดี ที่นี่เขาพัฒนาพันธุ์โคนมเป็นของตัวเองด้วยชื่อ โชคชัยฟรีเชี่ยน ซึ่งเป็นพันธุ์โคนมที่ให้ปริมาณน้ำนมสูงมาก และทนต่อสภาพอากาศของไทยด้วย เชื่อไหมว่าตอนที่เจ้าหน้าที่พาพ่อพันธุ์โคเดินออกมาโชว์ตัวนั้น วินาทีแรกที่เราเห็นถึงกับต้องอึ้งเพราะพ่อโคตัวใหญ่มากกก ตัวดำและมันวาวมาก สมแล้วที่เขาคัดเลือกให้เป็นพ่อพันธุ์โคของที่นี่
เมื่อเสร็จจาก Super Gene แล้ว พี่คาวเกิร์ลคนสวยก็พาเรามาต่อที่จุด Super Cow ซึ่งเป็นจุดที่ใช้สาธิตวิธีการรีดนมวัวของฟาร์มโชคชัย ที่นี่เขาใช้วิธีการรีดนมวัวอยู่ 2 วิธีคือ ใช้มือรีดและใช้เครื่องจักรรีด
เริ่มจากเจ้าหน้าที่จะสาธิตวิธีรีดนมวัวด้วยมือก่อน เทคนิคง่ายๆคือ จับ บีบ ปล่อย ทำเป็นจังหวะไปเรื่อยๆ ขั้นตอนนี้เราสามารถเป็นอาสาสมัครเข้าไปรีดนมวัวได้ด้วย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะสาธิตวิธีรีดนมวัวด้วยเครื่องจักร วิธีนี้ง่ายมากคือใส่เครื่องจักรแต่ละหัวเข้าไปในเต้านมแต่ละเต้า แค่นั้นเอง เดี๋ยวเครื่องจักรก็จะทำงานเอง! ซึ่งปัจจุบันฟาร์มโชคชัยใช้วิธีการรีดนมวัวด้วยเครื่องจักรซะเป็นส่วนใหญ่แล้ว เพราะรวดเร็ว สะอาด และสะดวกมากๆ
หลังจากนั้นนมที่รีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะถูกส่งเข้าโรงงานทันที เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆของฟาร์มโชคชัย
ต่อจากนั้นพี่คาวเกิร์ลคนสวยก็พาคณะทัวร์ของพวกเราเข้าชมข้างในโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆของฟาร์มโชคชัย ที่นี่สะอาดมากๆ และเครื่องมือเครื่องจักรต่างๆก็เยอะมากด้วย! จุดนี้พี่คาวเกิร์ลก็จะพาเรามาชิมไอศกรีมที่ได้จากการแปรรูปนมที่รีดมาเมื่อกี้นี้ สำหรับรสชาติไอศกรีมนั้นจะนิ่มและนุ่มมาก ความหวานกำลังพอดี เราติดใจขอเบิ้ลถึง 2 ถ้วยเลย!
เสร็จจากชมโรงงานพี่คาวเกิร์ลก็จะพาเรามานั่งรถรางเพื่อชมฟาร์มด้านใน เราตื่นเต้นมาก! เพราะเป็นการเที่ยวที่แปลกใหม่สำหรับเรามากๆ
รถรางแล่นผ่านโซนแรกที่เป็นโซนเลี้ยงโคนม โคนมที่นี่มีเยอะมากๆ ซึ่งตอนที่รถรางของคณะทัวร์เราผ่านไปนั้น เจ้าหน้าที่กำลังให้พวกมันกินอาหารอยู่ เราจึงได้ดูโคนมแบบใกล้ชิดมาก!
ที่ฟาร์มโชคชัยแห่งนี้ สามารถผลิตไบโอดีเซลไว้ใช้เองได้อีกด้วย เรานั่งรถรางผ่านเห็นว่า ปั๊มน้ำมันไบโอดีเซลที่นี่สวยและน่ารักมาก เหมือนปั๊มน้ำมันคาวบอยในหนังต่างประเทศเลยล่ะ!
หลังจากนั้นรถรางจะพาเรามาแวะจุดถ่ายรูปเขาน้อย ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดถ่ายวิวฟาร์มโชคชัยที่ค่อนข้างสวย เราจะมองเห็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจีกว้างๆ ตัดกับขอบท้องฟ้าสีสันสดใส ที่ไกลๆออกไปเราจะสามารถมองเห็นเขาน้อยด้วย และที่บริเวณนี้ยังเป็นบริเวณที่เก็บอัฐิของบรรพบุรุษฟาร์มโชคชัยอีกด้วย
หลังจากนั้นรถรางก็จะขับต่อไปเรื่อยๆ ผ่านโซนเลี้ยงช้าง โซนปลูกพืชผักต่างๆ จนมาถึงโซนคาวบอย ซึ่งโซนนี้รถรางจะจอดนานหน่อยเพราะมีกิจกรรมต่างๆให้เราเลือกเล่นมากมาย! โดยวิธีการเล่นนั้นก็ให้เลือกว่าจะเล่นกิจกรรมใด และให้ซื้อคูปองของกิจกรรมนั้นมายื่นต่อเจ้าหน้าที่
ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกเล่นมากมาย เช่น กิจกรรมขี่ม้า กิจกรรมยิงปืน กิจกรรมขับรถ ATV เป็นต้น ใครชอบกิจกรรมไหนเลือกเล่นกันได้เลย!
และแล้วก็ถึงเวลาของการโชว์คาวบอย กิจกรรมนี้ดูฟรีไม่ต้องซื้อคูปองเพิ่ม โชว์จะเริ่มต้นการโชว์ด้วยการสาธิตวิธีการขี่ม้าแบบคาวบอย ต่อด้วยโชว์การควงแส้แบบคาวบอย ต่อด้วยโชว์การสะบัดแส้แบบคาวบอย สุดท้ายจะโชว์การใช้แส้ตัดดอกไม้ที่ใช้มือกับปากถืออยู่ มีความหวาดเสียว ตื่นเต้น และลุ้นมากพอสมควร!
เมื่อจบจากการแสดงโชว์คาวบอยก็จะหมดกิจกรรมทัวร์แล้ว รถรางก็พาเรากลับมาที่ด้านหน้าของฟาร์ม ระหว่างทางเราก็จะเจอกับคอกวัวหนุ่มๆสาวๆ ซึ่งพี่คาวบอยสาวสวย ไกด์ของเราเล่าว่า วัวในคอกนี้มีหน้าที่คือกินและนอนเฉยให้น้ำหนักเป็นไปตามเกณฑ์เท่านั้น เกิดเป็นวัวคอกนนี้นี่สบายจริงเลยๆ
เมื่อมาถึงด้านหน้าฟาร์ม ก็จะมีร้านของของที่ระลึกต่างๆ ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งของที่ระลึกจากฟาร์มโชคชัยนั้นน่ารักหมดทุกชิ้นเลย เราซื้อติดไม้ติดมือมาตั้งหลายอย่าง!
แนะนำที่พักใกล้ ที่เที่ยวเขาใหญ่ …
บ้านสวนน้อยรีสอร์ท (Hobbit) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
บ้านสวนน้อยรีสอร์ท ตั้งอยู่ใน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจาก ที่เที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 40-50 กิโลเมตรได้ โดยใช้เวลาขับรถประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ระหว่างทางนั้นจะผ่านเขื่อนลำตะคองด้วย ซึ่งบริเวณเขื่อนลำตะคองนี้จะมีจุดชมวิวและจุดพักผ่อนมากมาย เพื่อนๆสามารถแวะพักผ่อนหย่อนใจก่อนมาบ้านสวนน้อยรีสอร์ทได้
บ้านสวนน้อยรีสอร์ท หรือที่ทุกคนเรียกว่าบ้านฮอบบิท เป็นที่พักผ่อนสไตล์โฮมสเตย์ วิถีชีวิตพอเพียง สร้างสรรค์บ้านแห่งแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง The Lord of the Rings และ The Hobbit โดยคัดสรรจุดเด่นต่างๆจากภาพยนตร์มาสร้างเป็นที่พัก เช่น บ้านฮอบบิทใต้ดินหลังเล็กๆ บ้านของโฟรโด โรงเตี้ยม สะพานข้ามน้ำ หอคอย เป็นต้น ที่นี่นอกจากจะเปิดให้บริการที่พักแล้ว ยังมีชุดคอสเพล์ของตัวละครต่างๆให้แขกผู้เข้าพักได้แต่งตัวถ่ายรูปให้เหมือนตัวละครนั้นๆอีกด้วย
นอกจากบ้านฮอบบิทแล้ว ที่นี่ยังมีการสร้างสรรค์บ้านแห่งแรงบันดาลใจอื่นๆอีกหลายแบบ เช่น มีการจำลองบ้านพักจากเกาะในฝัน Santorini ของประเทศกรีซ และบ้านการ์ตูนต่างๆ เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งบ้านแต่ละแบบนั้นสวยงามและคล้ายต้นแบบมาก
บ้านสวนน้อยรีสอร์ทเปิดให้บริการแล้ววันนี้ ในราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 500 บาท เท่านั้น
ติดต่อสอบถามและสำรองห้องพักได้ที่ …
บ้านสวนน้อยรีสอร์ท (Baan Suan Noi Resort)
292 หมู่ 15 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา 30340
หมายเลขโทรศัพท์ 081-291-5160
Facebook fanpage บ้านสวนน้อยรีสอร์ท คลิกที่นี่
เว็ปไซค์ของบ้านสวนน้อยรีสอร์ท คลิกที่นี่
เพื่อนๆสามารถเข้าไปอ่านรีวิวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บ้านสวนน้อยรีสอร์ท (Baan Suan Noi Resort) ของเว็ปไซค์ ไป กัน มา ยัง … คลิกที่นี่
หรือหากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ที่เที่ยว (ประเทศไทย) ของเว็ปไซค์ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่