ที่เที่ยวอุดรธานี : 2 แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ใกล้ชิดธรรมชาติ
“จังหวัดอุดรธานี” เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ที่นี่เป็นศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางทางบกและทางอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนต่างๆอีกด้วย นอกจากนั้น จ.อุดรธานี ยังมีชื่อเสียงในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ยกตัวอย่างเช่น คำชะโนด ทะเลบัวแดง เป็นต้น โดยวันนี้เราจะพาไปพบกับ ที่เที่ยวอุดรธานี การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แนบชิดติดธรรมชาติ กับ 2 แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ของ จ.อุดรธานี นั่นก็คือ วัดป่าภูก้อนและล่องแก่งรถอีแต๊ก ณ หมู่บ้านคีรีวงกต นั่นเอง!
ที่เที่ยวอุดรธานี : วัดป่าภูก้อน
วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นรอยต่อของ 3 จังหวัด คือ จ.อุดรธานี จ.เลย และ จ.หนองคาย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2530 เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมกว่า 750 ไร่ในผืนป่าแห่งนี้ อีกทั้งวัดยังทำการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่โดยรอบวัดด้วย เพื่อใช้เป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ และเพื่อจัดตั้งเป็นพุทธอุทยาน จนวัดแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน” มาจนถึงปัจจุบัน
พระวิหารแห่งนี้มีลักษณะเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าเขียว ซึ่งตัดกับขอบหลังคาสีเหลืองทอง มีความสวยงามมากจริงๆ
ข้างๆพระวิหารนั้น จะมีพระมหาเจดีย์นามว่า “พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์” ตั้งอยู่ ซึ่งพระมหาเจดีย์แห่งนี้เป็นสถานที่เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานนั่นเอง
ภายในพระวิหารจะพบกับพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ซึ่งทำขึ้นจากหินอ่อนสีขาว มีความยาว 20 เมตร หินอ่อนที่ทำนั้นเป็นหินอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานที่สุด รวมระยะเวลาในการสร้างทั้งหมด 6 ปี ซึ่งถือว่ายาวนานมาก สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบนั่นเอง เราจึงถือกันว่าพระพุทธไสยาสน์องค์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธศิลป์ของรัชกาลที่ 9 นั่นเอง
แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ หมู่บ้านคีรีวงกต
ไม่ไกลจากวัดป่าภูก้อนก็จะพบกับหมู่บ้านคีรีวงกต ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่โอมล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติน้ำโสม-นายูง อันเป็นแหล่งก่อกำเนิดของน้ำตกห้วยพางลำธารที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิตในหมู่บ้านได้ใช้ประโยชน์ในการทำอาชีพเกษตกร ที่นี่เปิดหมู่บ้านเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยสมาชิกของชุมชนร่วมมือกันบริหารจัดการท่องเที่ยวภายในชุมชน มีบริการที่พักให้เลือกในแบบพักกับเจ้าของบ้าน หรือแบบกางเต็นท์ รวมทั้งที่นี่ยังมีบริการนำเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในหมู่บ้านด้วยรถเสือภูเขาหรือรถอีแต๊ก ล่องแก่ง และกินข้าวกลางป่าอีกด้วย
ทริปนี้เราจะพามาเที่ยวแบบลุยๆนิดหนึ่ง กับทริปล่องแก่งรถอีแต๊ก และกินข้าวป่ากัน ณ หมู่บ้านคีรีวงกตแห่งนี้นั่นเอง โดยทริปนี้จะมีผู้ใหญ่นรินทร์มาเป็นไกด์นำเที่ยวหมู่บ้าน ขับรถอีแต๊กล่องแก่ง และกินข้าวป่าด้วยกัน
เราขึ้นคันหน้าสุดเลยเพื่อที่จะได้ชมวิวสวยๆตลอดสองข้างทาง รถอีแต๊กจะขับไปตามหมู่บ้านซึ่งเป็นถนนลาดยางบ้าง ถนนลูกรังบ้าง ขับผ่านทุ่งหญ้าบ้าง ทุ่งนาบ้าง ภูเขาบ้าง มีความเป็นธรรมชาติสุดๆ ตลอดสองข้างทางนั้นเรามักจะเจอชาวบ้านกำลังช่วยกันทำการเกษตรต่างๆ ซึ่งเมื่อรถอีแต๊กขับผ่าน ชาวบ้านจะยิ้มและโบกมือทักทายยินดีต้อนรับ เป็นภาพที่ประทับใจมากทีเดียว!
ถึงเวลาที่รถอีแต๊กพาเรามาถึงลำธาร หลังจากนี้เรากำลังจะนั่งรถอีแต๊กล่องแก่งนั่นเอง ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่แปลกใหม่มากพอสมควร หากถามถึงความรู้สึกเราแล้วล่ะก็ มีทั้งตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่ต่างๆ อีกทั้งก็ยังมีความกลัวเปียกอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือเป็นความรู้สึกที่ดีและประทับใจ
วินาทีที่รถอีแต๊กลงสู่ลำธารนั้นมันตื่นเต้นมาก รถจะเอียงซ้ายที ขวาที โยกเยกไปละก็โยกเยกมาบ้าง บางคนกลัวเปียกก็เอียงตัวหลบน้ำกันเป็นว่าเล่น แต่สิ่งที่เราต้องลุ้นกับการล่องแก่งรถอีแต๊กนั้น นั่นก็คือ มันจะติดโคลนติดหล่มหรือไม่ ถ้ามันติดแล้วล่ะก็ ทุกคนจะต้องช่วยกันดันมันและขย่มช่วยกันจนมันหลุดออกไป สาวๆนั้นก็จะกรี๊ดกันเป็นว่าเล่น! และเมื่อมาถึงบางจุดของลำธารที่มันตื้นหน่อย รถอีแต๊กก็จะจอดให้เราลงไปถ่ายรูปกัน เล่นน้ำกัน ชมต้นไม้ใบหญ้ากันแบบแนบชิดธรรมชาติอย่างที่สุด ถือเป็นการล่องแก่งที่แปลกใหม่และน่าประทับใจเป็นอย่างมาก!
หากวันไหนอากาศแจ่มใส ผู้ใหญ่นรินทร์ก็จะพานั่งรถอีแต๊กไปทานข้าวกลางป่าที่น้ำตกกัน แต่หากช่วงฤดูน้ำหลาก ผู้ใหญ่นรินทร์ก็จะเตรียมสถานที่สำหรับทานอาหารกลางวันไว้ให้หลากหลายที่ อาหารที่นี่ผู้ใหญ่นรินทร์จะเน้นหุงต้มด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง กระบอกไม้ไผ่ที่ประยุกต์ทำเป็นถ้วยและชามหรือแม้แต่ช้อนก็ยังทำจากไม้ไผ่ สำหรับเมนูมื้อกลางวันวันนี้จะมี ปีกไก่ย่างสูตรเด็ดของผู้ใหญ่นรินทร์ ปลานิลเผา ส้มตำ แกงหยวกใส่ปลา และข้าวเหนียวในกระบอกไม้ไผ่ รสชาตินั้นอร่อยมากทีเดียว ยิ่งกินกันหลายๆคนยิ่งอร่อยเข้าไปอีก เราได้ข้อคิดดีๆจากอาหารมื้อนี้ด้วยว่า อาหารไม่ต้องหรูระดับภัตตาคารก็อร่อยได้ นี่แหละมนต์เสน่ห์ของหมู่บ้านคีรีวงกตที่ใครๆก็ต้องตกหลุมรักเมื่อได้มาเยือน!
ก่อนกลับเราขอนามบัตรของผู้ใหญ่นรินทร์มาฝากด้วย เผื่อใครสนใจจะได้โทรหรือไลน์จองได้เลย ที่นี่จะมาล่องแก่งอย่างเดียวก็ได้ จะมาล่องแก่งและก็ทานอาหารในป่าเหมือนเราก็ได้ หรือใครอยากค้างคืนก็มีเหมือนกัน ราคานั้นเหมาจ่ายเป็นกันเองมากเมื่อเทียบกับความสุขที่จะได้รับกลับไป!
ติดต่อสอบถามแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ หมู่บ้านคีรีวงกต จ.อุดรธานี ได้ที่…
ผู้ใหญ่นรินทร์ อนันทวรรณ
เบอร์โทรศัพท์ 083-1479004
Facebook : ออนซอนคีรี (OonSonKeeree)
หากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ที่เที่ยว (ประเทศไทย) ของ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่