ที่เที่ยว มาเก๊า กับ 7 สถานที่เช็คอินน่าสนใจ
MACAO is calling ใครสายกิน สายเที่ยว สายช๊อปปิ้ง แพ็คกระเป๋าแล้วตามเราไปได้เลย! อยากจะไปคาสิโนมาเก๊า หรืออยากจะไปขอพรวัดอาม่า อยากจะกินทาร์ตไข่สูตรต้นตำรับ หรืออยากจะช๊อปปิ้งใจกลางจตุรัสเซนาโด ทั้งหมดนี้ เรารวบรวมไว้ในรีวิวสุด Exclusive กับ 7 สถานที่เที่ยวเด่นๆ ของมาเก๊า แบบเบ็ดเสร็จในรีวิวเดียว พร้อมทั้งบอกถึงวิธีการเดินทาง มาให้เพื่อนๆ ได้เที่ยวกันแบบง่ายๆ เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้เช็คอิน ที่เที่ยว มาเก๊า เหล่านั้นมาอวดเหล่า Social กันได้เลย เรียกได้ว่ารีวิวนี้ จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวถึงแก่นแท้ของมาเก๊า แบบไม่มีหลงทางอย่างกันแน่นอน!
เริ่มต้นด้วยการเตรียมตัวก่อนเดินทาง…
การท่องเที่ยวในมาเก๊านั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายต่อหลายที่ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้เพื่อนๆศึกษาและวางแผนการท่องเที่ยวในแต่ละวันของเพื่อนๆอย่างคร่าวๆด้วย Klook เว็ปไซค์ที่รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวทุกๆอย่างของมาเก๊า รวมถึงมี Travel Pass ต่างๆที่เพื่อนๆสามารถกดสั่งซื้อได้เลย เราแนะนำว่าหากสถานที่ท่องเที่ยวในแพลนการเที่ยวของเพื่อนๆนั้น จำเป็นต้องใช้ Travel Pass แล้วล่ะก็ เพื่อนๆควรซื้อจาก Klook ไปเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวซื้อที่หน้างานอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆนั้น บางคนต้องรอคิวนานเป็นชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ด้วย Klook เป็นแหล่งรวบรวม Travel Pass ของประเทศต่างๆทั่วโลกที่เชื่อถือได้ เมื่อเพื่อนๆกดจองและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆก็จะได้ Code ไปแสดงที่ช่องทางพิเศษของ Klook ที่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆได้เลย โดยไม่ต้องต่อคิวให้เสียเวลา อีกทั้งช่วงนี้ Klook มีโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย ที่เราการันตีเลยว่า ราคาที่จองกับ Klook นั้น เมื่อหักส่วนลดแล้วจะถูกกว่าราคาบัตรที่หน้างานอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าหากเพื่อนๆมีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงแล้วล่ะก็ ลองใช้บริการกับ Klook ดูซักครั้ง เพื่อนๆจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!
สำรวจและจองกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายในราคาสุดพิเศษ กับ KLOOL … คลิกที่นี่
คำว่าอุบัติเหตุ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้ซื้อประกันภัยการเดินทางทุกครั้งที่ต้องไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงกับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล ในกรณีที่เราเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วย จนถึงต้องเข้ารักษาตัวใน รพ. ที่ต่างประเทศ อีกทั้งเราจะยังมั่นใจได้อีกว่า ไม่ว่าไฟท์บินของเราจะดีเลย์จนเราต่อเครื่องไม่ทัน หรือกระเป๋าเดินทางเราสูญหายและชำรุด เราก็จะได้รับการคุ้มครองอย่างดีอีกด้วย สำหรับทริปนี้เราจึงไม่พลาดที่จะซื้อประกันภัยการเดินทางกับ MSIG ให้กับทุกคนในทริปด้วย
เราเลือกที่จะใช้ประกันภัยการเดินทางของ MSIG ด้วยเหตุผลที่ว่า เราสามารถซื้อประกันแบบรายเที่ยวหรือรายปีออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งเราจะได้รับกรมธรรม์ทันทีที่ซื้อเลย อีกทั้งประกันภัยนี้ยังมีแพ็กเกจแบบ Easy ให้เราเลือกถึง 4 แพ็กเกจ ราคาเริ่มต้นแค่ 190 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งทุกแพ็กเกจนั้นเรายังสามารถนำไปขอยื่นวีซ่าได้อีกด้วย และหากยื่นแล้วไม่ผ่าน เราก็ยังสามารถขอรับเงินคืนได้สูงสุดถึง 100% เลยทีเดียว ที่เราชอบมากที่สุดคือ MSIG นั้นมีการคุ้มครองอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยแบบไม่ต้องสำรองเงินจ่ายทั่วโลก เมื่อเราต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ประเทศนั้นๆ (เฉพาะโรงพยาบาลในเครือเท่านั้น) ในกรณีที่ไฟท์บินเราดีเลย์และการล่าช้าของเที่ยวบินทุก 6 ชม. เราก็ยังจะรับได้ความคุ้มครองถึง 20% ของวงเงินเอาประกันเลยทีเดียว อีกทั้ง MSIG ที่เราเลือกนั้นยังมีบริการ MSIG Assist คอยช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. ทั่วโลกด้วย ได้ข่าวมาว่าตอนนี้ทาง MSIG เขามีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมด้วยนะ นั่นก็คือ เราสามารถที่จะโทรกลับไทยเพื่อปรึกษาปัญหาการเจ็บป่วยได้แล้วด้วย ซึ่งเขาจะจ่ายคืนตามจริงไม่เกิน 500 บาทด้วยแหละ หากว่าเราเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ พบแพทย์และไม่นอนโรงพยาบาลแล้วล่ะก็ เราก็จะได้รับชดเชยค่าเดินทางถึง 1,000 บาท/ทริปอีกด้วย เรียกได้ว่า เที่ยวต่างประเทศอุ่นใจกับประกันภัยการเดินทางของ MSIG จริงๆ
สนใจซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ กับ MSIG Travel Easy มั่นใจทุกการเดินทาง … คลิกที่นี่
มาถึงเรื่องเงินตราของมาเก๊ากันบ้าง เงินที่มาเก๊านั้นจะใช้เป็น MOP แต่สามารถใช้เงิน HKD ของฮ่องกงจ่ายได้ในอัตราแลกเปลี่ยน 1 HKD = 1 MOP ด้วยนะเอ่อ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าเล็กใหญ่สามารถจ่ายเงิน HKD ได้หมด เพื่อนๆลองวางแผนดูว่าจะใช้เงิน MOP หรือ HKD ซึ่งโดยปกติแล้วที่ Super Rich ประเทศไทยจะมีเงิน MOP ให้เราแลกยากกว่า HKD ต้องโทรจองก่อนล่วงหน้าในบางสาขาด้วยนะเอ่อ
เมื่อถึงเวลาเดินทาง…
เราเดินทางกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ใครๆก็บินได้ ด้วยไฟท์เช้าตรู่เวลา 06.45 น. บินตรงจากสนามบินดอนเมืองสู่ประเทศมาเก๊าใช้เวลาเพียง 2 ชม. 45 นาที ก็ถึงสนามบินมาเก๊า สำหรับสายการบินไทยแอร์เอเชียนั้นมีบินตรงไปมาเก๊าทุกวันเวลา ทั้งช่วงเช้า ช่วงสาย บ่าย หรือเย็นก็มีหมด อีกทั้งยังสามารถบินตรงจากสนามบินเชียงใหม่ พัทยา–อู่ตะเภา และภูเก็ต ไปยังสนามบินมาเก๊าได้อีกด้วย ที่สำคัญบินกับไทยแอร์เอเชียนั้นเครื่องบินใหม่ทุกลำและตรงเวลามากไม่ค่อยจะดีเลย์ด้วย
บินกับแอร์เอเชียทั้งทีอย่าลืมชิมข้าวกระเพราไก่สูตรหม่อมหลวงหน่อยที่รสชาติอร่อยใช้ได้เลย สำหรับใครที่บินไฟท์เช้าตรู่แบบเราแล้วล่ะก็ การเลือกทานอาหารบนเครื่องบินแบบนี้ค่อยข้างจะสะดวกมากทีเดียว ยิ่งได้นั่งร่วมกับเบาะ Hot seat กว้างๆแล้วล่ะก็ กินไปชมวิวไปเอนเบาะไปโคตรสบายใจนะบอกเลย!
การเดินทางในมาเก๊า…
เรามาถึงสนามบินมาเก๊าเวลา 10.20 น. ตม.ที่นี่ไม่ต้องกรอกข้อมูลเข้าเมืองแล้วนะเอ่อ แค่ยื่นพาสปอร์ตให้ จนท. ก็เรียบร้อยแล้ว ตอนเราไป ตม. ไม่ได้ถามอะไรเราเลย เราจึงออกเดินทางมารับกระเป๋าและรีบเดินมาขึ้นรถบัสฟรีของ Venetian เพื่อออกจากสนามบิน
การเดินทางในมาเก๊านั้นหลักๆจะมีอยู่ 3 วิธี นั่นก็คือ ส่วนใหญ่ในมาเก๊านั้นจะมีรถบัสฟรีของโรงแรมและคาสิโนต่างๆให้บริการในสถานที่เด่นๆของมาเก๊าอยู่แล้ว หากเพื่อนๆวางแผนการท่องเที่ยวมาดี เพื่อนๆก็จะได้นั่งรถบัสฟรีไป ที่เที่ยว มาเก๊า ต่างๆหลายต่อหลายที่เลยซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากพอสมควร นอกจากนี้ก็ยังจะมีรถโดยสารประจำทางราคา 3.2 MOP ตลอดสายให้บริการทั้งเมืองอีกด้วย แต่หรือหากเพื่อนๆรีบต้องทำเวลาแล้วล่ะก็ ยังมีแท็กซี่มิเตอร์ให้เพื่อนๆเรียกใช้บริการด้วย
7 ที่เที่ยว มาเก๊า น่าสนใจ…
1) วัดอาม่า (A-Ma Temple)
“วัดอาม่า” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะมาเก๊า เป็นวัดที่มีอยู่มายาวนาน สร้างขึ้นเพื่อถวายให้กับอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล เชื่อกันว่าที่มาของชื่อมาเก๊านั้นมาจากบริเวณวัดอาม่าแห่งนี้นั่นเอง โดยในอดีตนั้นจะมีอ่าวที่ชื่อว่า A Ma Goa แปลว่าอ่าวของอาม่า จึงเพี้ยนมาเป็นชื่อ มาเก๊าในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งภายในวัดอาม่าแห่งนี้จะมีจุดกราบไหว้ขอพรอยู่หลายจุด โดยในแต่ละจุดนั้นจะอยู่บนเนินเขาเป็นชั้นๆ เราต้องเดินขึ้นไปบันไดไป ซึ่งในแต่ละชั้นก็จะมีทั้งศาลเจ้า ศาลา ประตูโบราณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆให้เราได้กราบไหว้ขอพร
ภายในวัดอาม่านั้น เราจะได้พบกับก้อนหินขนาดใหญ่แกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ บ่งบอกถึงว่าบริเวณนี้คือจุดแรกที่เจ้าแม่อาม่าก้าวเท้าลงเหยียบแผ่นดินมาเก๊านั่นเอง
การเดินทาง; เริ่มต้นออกจากสนามบินให้นั่งรถบัสฟรีของ Venetian Casino คันสีน้ำเงินตามรูปด้านบนมาลง Venetian Casino จากนั้นให้นั่งแท็กซี่จาก Venetian Casino มาจนถึงวัดอาม่า ค่าบริการประมาณ 50 MOP (GPS ค้นหาคำว่า; A-MA Temple)
2) Penha Church
“โบสถ์เพนญ่า” หรือ Penha Church สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1622 ตั้งอยู่บนยอดเขา Barra Hill โบสถ์นี้เป็นที่พำนักของบาทหลวง ภายในโบสถ์นั้นมีบันไดที่จะพาลงไปยังโรงสวดเล็กๆเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลีกวิเวกหรือผู้ที่ต้องการมีสมาธิในการสวดมนต์ บริเวณโดยรอบของโบสถ์นั้นจะถูกประดับประดาด้วยน้ำพุและไม้ประดับอย่างสวยงาม ไฮไลท์ของที่นี่ที่เราพามา นั่นก็คือ จากยอดเขาเพนญ่าแห่งนี้เราจะมองเห็นอ่าวบาร์ร่า มาเก๊าทาวเวอร์ และฝั่งเมืองจูไห่ของมาเก๊าได้อย่างชัดเจน ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองมาเก๊าที่สวยงามที่สุดเลยก็ว่าได้
การเดินทาง; เดินมาจากวัดอาม่า ระยะทางประมาณ 750 เมตร (GPS ค้นหาคำว่า; Chapel of Our Lady of Penha)
3) Ole London Hotel
เราเลือกที่จะพักกับ Ole London Hotel โรงแรมที่มีสัญลักษณ์เป็นดอกกุหลาบ โดยทำการจองกับ Booking.com ล่วงหน้ามาจากประเทศไทย ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Senado square หรือ Ruins of St. Paul’s และยังอยู่ใกล้กับป้ายรถประจำทางที่สามารถเดินทางไปทั่วมาเก๊าได้เลย อีกทั้งที่นี่ยังอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะและร้านค้าร้านสะดวกซื้อมากมาย ไม่เปลี่ยวและปลีกวิเวกมากเกินไป เรียกได้ว่าอยู่ใจกลางเมืองเลยก็ว่าได้
เราเข้า Check-in ตอนบ่าย 2 กว่าๆก็ได้ห้องล่ะ เพียงแค่ยื่นพาสปอร์ตและเซ็นยินยอมเข้าพักก็ได้คีการ์ดมาเลย ที่นี่ไม่ต้องมัดจำค่าคีการ์ดแล้วนะเอ่อ สามารถแจ้ง พนง. ที่เค้าเตอร์ได้เลยว่า เราอยากได้เตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่นั่นเอง อยากจะบอกว่า พนง. ที่นี่เป็นมิตรมาก พูดภาษาอังกฤษได้คล่องทีเดียว เราแอบปรึกษาที่เที่ยวกับเขานานสองนาน
เราได้ห้องพักเป็นเตียงเดี่ยวขนาด 3 ฟุต 2 เตียง พร้อมห้องน้ำในตัว ภายในห้องพักค่อนข้างแคบพอควรซึ่งก็เป็นปกติอยู่แล้วสำหรับห้องพักในมาเก๊า จึงไม่ได้ซีเรียสอะไร ในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆนั้นที่นี่มีให้อย่างครบครัน เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ทีวี โต๊ะนั่ง เครื่องปรับอากาศ น้ำอุ่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงฟัน รองเท้าผ้า น้ำชา กาแฟ กาน้ำร้อน และไดว์เป่าผม เป็นต้น
การเดินทาง; เดินมาจากโบสถ์เพนญ่า ระยะทางประมาณ 900เมตร (GPS ค้นหาคำว่า; Ole London Hotel)
4) Ruins of St. Paul’s
“ประตูโบสถ์เซ็นปอล” หรือ Ruins of St. Paul’s แต่เดิมนั้นเคยเป็นโบสถ์เซนต์ปอลมาก่อน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1700 เป็นสถานที่เคยเป็นโรงเรียนสอนศาสนาที่ชาวตะวันตกนำเข้ามาเผยแผ่ในเอเชีย ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 1835 โบสถ์แห่งนี้ถูกไฟไหม้จนเหลือแต่หน้าประตูโบสถ์ จึงได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1991 โดยเก็บซากที่ถูกไฟไหม้รวบรวมทำเป็นพิพิธภัณฑ์ไว้อยู่ด้านหลังประตูโบสถ์
การเดินทาง; เดินมาจาก Ole London Hotel ระยะทางประมาณ 850 เมตร (GPS ค้นหาคำว่า; Ruins of St. Paul’s)
5) Mount Fortress
“ป้อมปราการเมาท์” หรือ Mount Fortress สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ 1617 ถึง 1626 โดยพระนิกายเยซูอิตเพื่อใช้เป็นศูนย์รวมทางศาสนา ตัวป้อมปราการใช้เป็นกำแพงเมืองป้องกันการรุกรานชองชาวดัตช์ ซึ่งต่อมาใช้เป็นที่พักของผู้ว่าการฯ โดยปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมาเก๊าที่ภายในจะจัดแสดงประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตวัฒนธรรมมาเก๊าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งเรื่องความเชื่อ งานเทศกาล ธรรมเนียมประเพณี สถาปัตยกรรม กีฬา และศิลปะต่างๆนั่นเอง
การเดินทาง; อยู่ติดกันกับ Ruins of St. Paul’s ทางด้านขวามือ (GPS ค้นหาคำว่า; Monte Fort)
6) Senado Square
“จัตุรัสเซนาโด้” หรือ Senado square เป็นแหล่งชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊าอารมณ์ประมาณสยามบ้านเราเลย ที่นี่จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านรองเท้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านขนม และสถานที่สำคัญทางราชการมากมาย จุดเด่นของที่นี่คือ พื้นทางเดินของจัตุรัสเซนาโด้แห่งนี้จะเป็นรูปคลื่นซึ่งเปรียบเสมือนท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์นั่นเอง
การเดินทาง; เดินออกจากป้อมปราการเมาท์ประตูโบสถ์เซ็นปอล นั่นคือบริเวณของ Senado Square ทั้งหมดจ้า (GPS ค้นหาคำว่า; Senado Square)
ภายใน Senado Square เราจะพบกับโบสถ์เซนต์ดอมินิก (St. Dominic’s Church) เป็นโบสถ์เก่าแก่อายุมากกว่า 400 ปี สร้างโดยบาทหลวงชาวสเปนด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปบาร๊อกโคโลเนียล ปัจจุบันมีการใช้โบสถ์แห่งนี้ในงานสำคัญต่างๆมากมาย
ร้านอาหาร Chan Kong Kei Casa De Pasto
เอาใจคนรักอาหารประเภทเป็ดย่าง ข้าวมันไก่ หมูแดง และหมูกรอบบ้าง ร้านนี้อร่อยแบบเว่อร์มากจริงๆ มีกี่ดาวเราให้เต็มเลย บอกก่อนเลยว่าร้านนี้คนแน่นเอี๊ยด แม้แต่โต๊ะนั่งยังต้องถูกแชร์กับคนอื่นๆ การันตีได้เลยถึงความอร่อยของร้านนี้ มาที่นี่เราแนะนำเมนูเป็ดย่างอบน้ำผึ้ง เป็นเมนูที่อร่อยสุดๆ หนังเป็ดนี่กรอบและหวานมาก เนื้อเป็ดนุ่มไม่เหนียวจนเกินไป กินคู่กับผักกาดต้มโคตรอร่อย ที่จริงเราแนะนำทุกเมนูของร้านนี้เลยก็ว่าได้ อร่อยหมดทุกเมนูจ้า
การเดินทาง; ร้านตั้งอยู่ใน Senado Square นั่นแหละจ้า (GPS ค้นหาคำว่า; Chan Kuong Kei Casa De Pasto)
ร้านอาหาร Wong Chi Kei
เราขอแนะนำบะหมี่เกี๊ยวกุ้งกับเกี๊ยวน้ำที่อร่อยมากกกก! เส้นบะหมี่นี่เหนี่ยวนุ่มกินคู่กับเกี๊ยวกุ้งที่ชิ้นใหญ่มากและที่สำคัญตัวเกี๊ยวนั้นเป็นกุ้งทั้งตัวจ้าไม่ใช่เศษกุ้งเหมือนบ้านเรา กัดทีหนึ่งนี่กุ้งเด้งกรุ๊บๆกรอบๆกันเลยทีเดียว ร้านมีรูปภาพและเมนูภาษาอังกฤษให้จิ้มได้ง่ายๆไม่ต้องกังวล ฮ่าๆๆ
การเดินทาง; ร้านตั้งอยู่ใน Senado Square นั่นแหละจ้า แถวๆบริเวณน้ำนั่นเอง (GPS ค้นหาคำว่า; Wong Chi Kei)
7) The Venetian
การเดินทาง; นั่งรถประจำทางสาย 3A หรือ 10A จาก Senado Square ไปลง Macao Ferry Terminal (ราคารถเมล์ 3.2 MOP ตลอดสาย ให้เตรียมเงินให้พอดีเพราะรถเมล์ไม่ทอนเงินหรือจ่ายเกินได้) แล้วนั่งรถบัสฟรีของ Venetian ไปจนถึง Venetian Casino (GPS ค้นหาคำว่า; Venetian Casino)
เราแอบนั่งรถบัสฟรีของเขามานาน ถึงเวลาไปอุดหนุนเขาหน่อยแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ “The Venetian” เป็นคาสิโนคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สุดของมาเก๊าที่หรูหราและแพงมาก อีกทั้งยังที่มีโซนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นอาคารที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย โดยมีเจ้าของเป็นบริษัท Sands จากเมือง Las Vegas สหรัฐอเมริกา ภายใน Venetian นั้นประกอบไปด้วยโซนโรงแรมและรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดของมาเก๊า, โซนคาสิโน, หอประชุม และโซนห้างสไตล์เวนิสเรียกว่า Grand Canal Shoppes ที่ซึ่งมีท้องฟ้าจำลองและคลองเวนิสจำลองมาจากประเทศอิตาลีอีกด้วยใครที่อยากช๊อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลายห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงจ้า
ที่บริเวณ Main Lobby เราจะพบกับลูกโลกสีทองมีรูปปั้นวีนัสเกาะอยู่ บริเวณพื้นทางเดินจะปูด้วยหินลวดลายมีมิติสวยงามระยิบระยับมันวาวตลอดทางเดิน
เพดานทางเดินนั้นจะเป็นภาพวาดแบบโรมันสีสันสวยงาม เสาในบริเวณนี้จะเป็นเสาโรมันด้วยเช่นกัน บรรยากาศจึงคล้ายๆกับพระราชวังในประเทศยุโรป
มุมสวยๆอีกมุมหนึ่งภายใน Venetian นั่นก็คือ The Great Hall ซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกล้อมรอบด้วยคาสิโนนั่นเอง ที่นี่จะมีบันไดเลื่อนแบบโค้งๆขึ้นลงระหว่างคาสิโน หากใครอยากไปสัมผัสกับบรรยากาศของคาสิโนก็สามารถเดินลงไปได้เลย มีทั้งโต๊ะไพ่ ไฮโล ตู้สล๊อต ฯลฯ แอบอยากบอกว่าโซนนี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้นนะเอ่อ และห้ามถ่ายภาพภายในบริเวณคาสิโนด้วยประการทั้งปวงจ้า
หากเดินผ่านคาสิโนมาเรื่อยๆก็จะพบกับคลองเวนิสจำลองและท้องฟ้าจำลองที่จำลองบรรยากาศคล้ายกับเมืองเวนิสที่ประเทศอิตาลี ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คลอง คือ Grand Canal, Marco Polo Canal และ San Luca Canal โดยในแต่ละคลองนั้นจะมีเรือกอนโดล่าพานักท่องเที่ยวชมบรรยากาศใน Venetian อีกด้วย
พนักงานพายเรือกอนโดล่าจะใส่เสื้อขาวดำลายทางเหมือนกันกับที่เมืองเวนิส อีกทั้งยังมีการ Entertain นักท่องเที่ยวด้วยการร้องเพลงให้ฟัง โชว์มายากล เล่นตลก และทักทายผู้คนตลอดสองฝั่งของคลองอีกด้วย
มามาเก๊าทั้งที อย่าลืมลองกินทาร์ตไข่สูตรต้นตำรับจากร้าน Lord Stow Bakery ซึ่งเป็นร้านขายทาร์ตไข่ชื่อดังที่สุดของมาเก๊า ด้วยรสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับที่มีใส้ตรงกลางเยอะๆแบบไม่หวานจนเลี่ยนกับขนมปังรอบนอกแบบกรอบๆ ยิ่งกินตอนอุ่นๆร้อนๆแล้วล่ะก็ โคตรอร่อยบอกเลย ร้าน Lord Stow Bakery นี้มีอยู่หลายสาขา หนึ่งในนั้นก็คือสาขา Venetian นั่นเอง
จบทริป 7 ที่เที่ยว มาเก๊า อย่างสมบูรณ์แบบ ถือเป็นทริปที่เหนื่อยบ้างแต่ก็สนุกสุดๆไปเลย ที่จริงมาเก๊ามีสถานที่ท่องเที่ยวนอกเหนือจากที่เรารีวิวอีกมากมาย แต่เวลาเรามีไม่พอล่ะ ไว้โอกาสหน้าเราสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมเยียนมาเก๊าและเก็บตก ที่เที่ยว มาเก๊า อื่นๆอีกแน่นอน Love Love MACAO นะจ๊ะ
หากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ที่เที่ยว (ต่างประเทศ) ของ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่