ที่เที่ยวฮ่องกง รวม 8 ที่เที่ยว 1 ที่พัก และ 2 ร้านอาหารสุดแสนอร่อยในฮ่องกง
HONGKONG is calling ใครสายกิน สายเที่ยว สายช๊อปปิ้ง แพ็คกระเป๋าแล้วตามเราไปได้เลย! ใครอยากไปไหว้พระวัดหวังต้าเซียน หรืออยากไปชมวิวที่ The Peak ใครอยากไปเดินช๊อปปิ้งชิวๆ หรืออยากไปนั่งกระเช้าลอยฟ้านองปิง ทั้งหมดนี้เรารวบรวมไว้ในรีวิวสุด Exclusive กับ 7 ที่เที่ยวฮ่องกง 1 ที่พักย่านมงก๊ก และ 2 ร้านอาหารสุดแสนอร่อย แบบเบ็ดเสร็จในรีวิวเดียว พร้อมทั้งวิธีการเดินทาง มาให้เพื่อนๆได้เที่ยวกันแบบง่ายๆ เพื่อจะได้เช็คอิน ที่เที่ยวฮ่องกง เหล่านั้นมาอวดเหล่า Social กันได้เลย เรียกได้ว่ารีวิวนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวฮ่องกงแบบไม่มีหลงทางกันอย่างแน่นอน!
เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวฮ่องกงด้วย KLOOK
การท่องเที่ยวในฮ่องกงนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายต่อหลายที่ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้เพื่อนๆศึกษาและวางแผนการท่องเที่ยวในแต่ละวันของเพื่อนๆอย่างคร่าวๆด้วย Klook เว็ปไซค์ที่รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวทุกๆอย่างของฮ่องกง รวมถึงมี Travel Pass ต่างๆที่เพื่อนๆสามารถกดสั่งซื้อได้เลย เราแนะนำว่าหากสถานที่ท่องเที่ยวในแพลนการเที่ยวของเพื่อนๆนั้น จำเป็นต้องใช้ Travel Pass แล้วล่ะก็ เพื่อนๆควรซื้อจาก Klook ไปเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวซื้อที่หน้างานอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆนั้น บางคนต้องรอคิวนานเป็นชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ด้วย Klook เป็นแหล่งรวบรวม Travel Pass ของประเทศต่างๆทั่วโลกที่เชื่อถือได้ เมื่อเพื่อนๆกดจองและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆก็จะได้ Code ไปแสดงที่ช่องทางพิเศษของ Klook ที่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆได้เลย โดยไม่ต้องต่อคิวให้เสียเวลา อีกทั้งช่วงนี้ Klook มีโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย ที่เราการันตีเลยว่า ราคาที่จองกับ Klook นั้น เมื่อหักส่วนลดแล้วจะถูกกว่าราคาบัตรที่หน้างานอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าหากเพื่อนๆมีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงแล้วล่ะก็ ลองใช้บริการกับ Klook ดูซักครั้ง เพื่อนๆจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!
สำรวจและจองกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายในราคาสุดพิเศษ กับ KLOOL … คลิกที่นี่
MSIG ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ มั่นใจทุกการเดินทาง
คำว่าอุบัติเหตุ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้ซื้อประกันภัยการเดินทางทุกครั้งที่ต้องไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงกับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล ในกรณีที่เราเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วย จนถึงต้องเข้ารักษาตัวใน รพ. ที่ต่างประเทศ อีกทั้งเราจะยังมั่นใจได้อีกว่า ไม่ว่าไฟท์บินของเราจะดีเลย์จนเราต่อเครื่องไม่ทัน หรือกระเป๋าเดินทางเราสูญหายและชำรุด เราก็จะได้รับการคุ้มครองอย่างดีอีกด้วย สำหรับทริปนี้เราจึงไม่พลาดที่จะซื้อประกันภัยการเดินทางกับ MSIG ให้กับทุกคนในทริปด้วย
เราเลือกที่จะใช้ประกันภัยการเดินทางของ MSIG ด้วยเหตุผลที่ว่า เราสามารถซื้อประกันแบบรายเที่ยวหรือรายปีออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งเราจะได้รับกรมธรรม์ทันทีที่ซื้อเลย อีกทั้งประกันภัยนี้ยังมีแพ็กเกจแบบ Easy ให้เราเลือกถึง 4 แพ็กเกจ ราคาเริ่มต้นแค่ 190 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งทุกแพ็กเกจนั้นเรายังสามารถนำไปขอยื่นวีซ่าได้อีกด้วย และหากยื่นแล้วไม่ผ่าน เราก็ยังสามารถขอรับเงินคืนได้สูงสุดถึง 100% เลยทีเดียว ที่เราชอบมากที่สุดคือ MSIG นั้นมีการคุ้มครองอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยแบบไม่ต้องสำรองเงินจ่ายทั่วโลก เมื่อเราต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ประเทศนั้นๆ (เฉพาะโรงพยาบาลในเครือเท่านั้น) ในกรณีที่ไฟท์บินเราดีเลย์และการล่าช้าของเที่ยวบินทุก 6 ชม. เราก็ยังจะรับได้ความคุ้มครองถึง 20% ของวงเงินเอาประกันเลยทีเดียว อีกทั้ง MSIG ที่เราเลือกนั้นยังมีบริการ MSIG Assist คอยช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. ทั่วโลกด้วย ได้ข่าวมาว่าตอนนี้ทาง MSIG เขามีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมด้วยนะ นั่นก็คือ เราสามารถที่จะโทรกลับไทยเพื่อปรึกษาปัญหาการเจ็บป่วยได้แล้วด้วย ซึ่งเขาจะจ่ายคืนตามจริงไม่เกิน 500 บาทด้วยแหละ หากว่าเราเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ พบแพทย์และไม่นอนโรงพยาบาลแล้วล่ะก็ เราก็จะได้รับชดเชยค่าเดินทางถึง 1,000 บาท/ทริปอีกด้วย เรียกได้ว่า เที่ยวต่างประเทศอุ่นใจกับประกันภัยการเดินทางของ MSIG จริงๆ
ซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ กับ MSIG Travel Easy มั่นใจทุกการเดินทาง … คลิกที่นี่
เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปฮ่องกง …
เราเดินทางกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ใครๆก็บินได้ ซึ่งบินตรงจากสนามบินดอนเมืองสู่ฮ่องกง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว สำหรับสายการบินไทยแอร์เอเชียนั้นมีบินตรงไปฮ่องกงทุกวันเวลา ทั้งช่วงเช้า ช่วงสาย บ่าย หรือเย็นก็มีหมด อีกทั้งยังสามารถบินตรงจากสนามบินเชียงใหม่ พัทยา–อู่ตะเภา และภูเก็ต ไปยังฮ่องกงได้อีกด้วย ที่สำคัญบินกับไทยแอร์เอเชียนั้นเครื่องบินใหม่ทุกลำและตรงเวลามากไม่ค่อยจะดีเลย์ด้วย
บินกับแอร์เอเชียทั้งที ก็อย่าลืมชิมข้าวกระเพราไก่สูตรหม่อมหลวงหน่อย ที่รสชาติอร่อยใช้ได้เลย สำหรับใครที่บินไฟท์เช้าตรู่แบบเราแล้วล่ะก็ การเลือกทานอาหารบนเครื่องบินแบบนี้ ค่อนข้างจะสะดวกมากทีเดียว ยิ่งได้นั่งร่วมกับเบาะ Hot seat กว้างๆแล้วล่ะก็ กินไปชมวิวไป เอนเบาะไป โคตรสบายใจนะบอกเลย!
การเดินทางจากมาเก๊ามาฮ่องกง …
หากใครบินตรงกับสายการบินไทยแอร์เอเชียไปเที่ยวมาเก๊าก่อน แล้วอยากจะข้ามมาเที่ยวฮ่องกงด้วย การจะข้ามมาฝั่งฮ่องกงนั้น เราแนะนำให้ใช้เรือของ TurboJET ซึ่งเรือจะออกในทุกๆ 15-30 นาที ราคาตั๋วเรือชั้นประหยัดอยู่ที่ 170 HKD ต่อท่าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาทีก็ถึงฮ่องกง เรือลำนี้จะบรรจุผู้โดยสารได้เยอะมาก มีการระบุเลขที่นั่งอย่างชัดเจน มี พนักงานคอยดูแลให้เรารัดเข็มขัดที่นั่งตลอดการเดินทาง ภายในเรือมีขนมและเครื่องดื่มให้ซื้อทานได้ แอบอยากบอกว่าเรือขับไวมาก ประมาณ 45 นาทีก็ถึงฮ่องกงล่ะ!
เรือจะจอดที่ท่าเรือฝั่งเกาะฮ่องกง เมื่อลงจากเรือก็จะถึง ตม. ฮ่องกง เลย ตม. ที่นี่เข้มงวดมากกับพาสปอร์ตจากประเทศไทย เราเคยถูกสัมภาษณ์ว่ามาทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ซึ่งใช้เวลาการสัมภาษณ์เกือบ 20 นาทีได้ ดังนั้นใครจะข้ามจากมาเก๊ามาฮ่องกงทางเรือ เราแนะนำให้เตรียมเอกสารการผ่าน ตม. ให้พร้อมกันด้วย!
เงินตราและการเดินทางในฮ่องกง …
สำหรับเงินของฮ่องกงนั้น ใช้ได้แค่ HKD เท่านั้น เราสามารถแลกเงินจากในไทยไปได้เลย ส่วนการเดินทางในฮ่องกง ส่วนใหญ่เราจะใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน MTR ทั้งหมด ดังนั้น เราขอแนะนำให้ใช้บัตรเติมเงิน Octopus Card เพื่อใช้สำหรับเดินทางโดย MTR และรถประจำทาง อีกทั้งยังสามารถนำไปซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อต่างๆได้อีกด้วย ซึ่งเราจะหาซื้อบัตรเติมเงิน Octopus Card ได้ที่ Customer Service Centre ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR ทุกสถานี
รวม 7 ที่เที่ยวฮ่องกง ยอดนิยม …
1) Ngong Ping 360 Cable Car – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีส้ม ลงสถานี Tung Chung ทางออก B
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Ngong Ping Cable Car Tung Chung Station
“กระเช้าลอยฟ้านองปิง” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะลันเตา ที่ผู้มาเยี่ยมเยือนฮ่องกงต้องมา โดยกระเช้าลอยฟ้านองปิงนี้ จะลอยผ่านเส้นทางชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดความยาว 5.7 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างกลางเมืองตุงชุงกับนองปิงของเกาะลันเตา บนกระเช้านี้เราจะได้ชมวิวทิวทัศน์มุมกว้างของสนามบินนานาชาติฮ่องกง ทะเลจีนใต้ พระพุทธรูปเทียนถาน และพันธุ์ไม้ที่งดงามของ North Lantau Country Park อีกด้วย
แอบบอกก่อนว่า กระเช้าลอยฟ้านองปิงนั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆของโลก เราจึงไม่แปลกว่าทำไมที่นี่ถึงมีผู้คนหลั่งไหลมาเที่ยวกันเยอะแยะขนาดนี้ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวต่อคิวซื้อตั๋วขึ้นกระเช้ากันเยอะมาก หางแถวนี่ยาวไกลมากทีเดียว อย่างที่เราบอกไว้ตั้งแต่ต้นว่า เราแนะนำให้ซื้อ Travel Pass ต่างๆจากตัวแทนจำหน่ายที่ประเทศไทยไปเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวซื้อที่หน้างาน ทริปนี้เราเลือกใช้บริการกับ Klook จอง Travel Pass จากไทยไป พอไปถึงจึงสามารถใช้ช่องทางพิเศษของ Klook ไปรับตั๋วขึ้นกระเช้าได้เลยโดยไม่ต้องต่อคิวยาวๆ ดีเลิศมากนะ บอกตรงๆ
เราชอบการบริการของ Klook ที่สะดวกและรวดเร็วมาก อีกหนึ่งเหตุผลหลักที่เราชอบนั่นก็คือ Travel Pass ของ Klook นั้นราคาถูกกว่าตัวแทนอื่นๆและเชื่อถือได้ การจองก็ง่ายมาก มีให้จองทั้งทางเว็บไซค์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือ เพียงแค่เราค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไป ระบุชื่อผู้จองให้ตรงกับพาสปอร์ต วันเวลา และจำนวนบุคคล เราก็จะสามารถเลือกกดซื้อ Pass ต่างๆ ผ่านบัตรเครดิตและ Paypal ได้เลย หากใครมีโปรโมชั่นส่วนลดก็ยังสามารถนำมาลดเพิ่มเติมได้อีกด้วย หลังจากการจองเสร็จสิ้น Klook ก็จะส่งคูปองมาให้เราในอีเมล์ เพื่อที่เราจะเอาคูปองนั้นไปแลกเป็นตั๋วจริงตามวันเวลาที่เราเลือกใช้ เมื่อถึงหน้างานเราก็สามารถเดินเข้าช่องทางลัดพิเศษของ Klook ได้เลย เพียงแค่ยื่นพาสปอร์ตพร้อมกับคูปองที่ Klook ส่งให้ จะปริ้นมาแสดงหรือโชว์ผ่านแอพพลิเคชั่นก็ได้หมด แค่นี้เราก็จะได้ตั๋วขึ้นกระเช้าฯ มาแบบง่ายๆ สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวยาวนาน!
กระเช้าฯ จะค่อยๆเคลื่อนที่ผ่านสถานีขึ้นลงกระเช้าทั้ง 8 สถานี ผ่านทะเล ผ่านภูเขา ผ่านหมอกขาวๆในวันที่ฝนลงเม็ดอีกด้วย บรรยากาศโดยรอบกระเช้านั้นสวยงามมากบอกเลย เราจะอยู่บนกระเช้านาน 45 นาทีกับระยะทางที่กระเช้าเคลื่อนที่ไปทั้งหมด 5.7 กิโลเมตร
เราเลือกที่จะนั่งกระเช้าลอยฟ้าแบบพื้นคริสตัลหรือพื้นกระจกใสนั่นเอง นั่นหมายถึงว่าเราสามารถมองทะลุลงไปถึงพื้นด้านล่างได้ เมื่อใดก็ตามที่กระเช้าฯ ลอยขึ้นสูงๆ แล้วล่ะก็ หัวใจจะเสียวแว๊บ ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยก็ว่าได้! ทั้งหวาดเสียวและสวยงามคละเคล้าปนกันไป ได้ฟิลลิ่งตื่นเต้นๆ อีกแบบหนึ่งเลยล่ะ!
2) Ngong Ping Village – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; กระเช้าลอยฟ้านองปิง หรือ รถบัสก็มาได้
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Ngong Ping Village
เมื่อลงจากกระเช้าลอยฟ้านองปิง เราก็จะได้พบกับ “หมู่บ้านนองปิง” ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศอัดแน่นไปด้วยวัฒนธรรม มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ 3 แห่งได้แก่ Stage 360, Motion 360 และ Walk with Buddha ที่นี่มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อมากมาย อากาศเย็นสบายเดินเล่นได้ตลอดทั้งวัน!
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการเดินทางสายวัฒนธรรมและการแสวงบุญ หากมาที่นี่ เราจะได้เยี่ยมชมพระพุทธรูปเทียนถานจากสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านนองปิงไปไม่ไกลมากนัก สามารถเดินไปได้เลย พระพุทธรูปเทียนถานนี้ ถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของพุทธศาสนาในฮ่องกงเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ติดกับวัดโป๋หลินนั่นเอง เชื่อกันว่าใครที่ยืนตรงจุดกึ่งกลาง บริเวณลานวงกลมตรงกลางระหว่างพระพุทธรูปเทียนถานกับวัดโป๋หลินแล้วอธิษฐานขอพร พรที่ขอนั้นก็จะสัมฤทธิ์ผลทุกประการ!
Walk with Buddha เป็นแหล่งท่องเที่ยว 1 ใน 3 ของหมู่บ้านนองปิง ซึ่ง Walk with Buddha นั้น คือ การเดินขึ้นบันไดไปกราบนมัสการพระพุทธรูปเทียนถานนั่นเอง โดยบันไดที่นี่นั้นค่อนข้างสูงและชันมาก เล่นเอาเหนื่อยหอบกันเลยทีเดียว!
สำหรับวิวนี้คือวิวจากบนองค์พระใหญ่ หรือ พระพุทธรูปเทียนถาน นั่นเอง บรรยากาศด้านบนนั้นเย็นสบายมาก สามารถชมวิวมุมสูงได้ถึง 360 องศากันเลยทีเดียว!
3) The Peak Tram and Victoria Peak – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีแดงหรือน้ำเงิน ลงสถานี Central ทางออก J1 และ J2
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; The Peak Tram
“จุดชมวิว The Peak” เป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่สวยที่สุดของฮ่องกง ตั้งอยู่ด้านบนของยอดเขาวิคตอเรีย โดยมีความสูงประมาณ 396 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในอดีตนั้น The Peak ถูกใช้เป็นสถานที่ส่งสัญญาณให้กับเรือเดินสมุทร ที่เดินทางเข้ามาค้าขายกับฮ่องกง ในช่วงศตวรรษที่ 19 ต่อมาได้มีขุนนางระดับสูงมาสร้างที่พักอาศัยอยู่ด้านบน และเนื่องจาก The Peak นั้น ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูง ทำให้การขึ้นไปแต่ละครั้งก็จะต้องใช้คน 2 คน ช่วยกันแบกเกี๊ยวและเดินขึ้นไปส่งด้านบน แต่ปัจจุบันการขึ้นไปที่ The Peak นั้น จะมีรถรางหรือรถ Tram ซึ่งเป็นหนึ่งในรถรางที่เก่าแก่ที่สุดในโลกคอยให้บริการนั่นเอง!
จุดชมวิวแบบพาโนรามาของ The Peak นี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง ที่มีผู้คนนิยมไปมากที่สุดในฮ่องกง เราจึงเลือกใช้บริการ Travel Pass กับ Klook อีกตามเคย เพียงแค่เรานำคูปองที่จองไว้กับ Klook ไปแสดงพร้อมกับพาสปอร์ตที่เค้าเตอร์ขายตั๋ว เราก็จะได้ตั๋วขึ้นรถ Tram มาทันทีทันได และสามารถเดินเข้าไปขึ้นรถ Tram ได้อย่างฉับไว สะดวกสบายง่ายๆ สบายใจมากทีเดียว! ซึ่งตั๋วขึ้นชม The Peak นี้ สามารถใช้ขึ้นชม The Peak Tower และ Sky Terrace 428 ได้อีกด้วย!
และนี่ก็คือบรรยากาศของรถรางหรือรถ Tram สำหรับขึ้นชม The Peak Tower และ Sky Terrace 428 บน Victoria Peak นั่นเอง โดยช่วงขาขึ้นไปด้านบนนั้น เราแนะนำให้นั่งฝั่งขวามือ เพื่อชมวิวตึกต่างๆที่จะเกิดปรากฏการณ์ The Peak Tram illusion เป็นความรู้สึกเหมือนตึกกำลังจะล้มเอียงไปด้านหน้านั่นเอง
4) Avenue of Stars and Symphony of Lights – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีแดง ลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก G
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Hong Kong Clock Tower Water Pool
การแสดงแสงสีเสียง “Symphony of Lights” เป็นการแสดงความบันเทิงแบบมัลติมีเดีย โดยใช้ตึกทุกตึกบน 2 ฝั่งของฮ่องกง โชว์แสงสีต่างๆ มีทั้งแสงไฟฉาย เลเซอร์ จอ LED และเสียงเพลงปลุกใจ ที่บรรเลงโดยวงดนตรี Hong Kong Philharmonic แสดงร่วมกันอย่างพร้อมเพียง งดงามตระการ ทำให้เส้นขอบฟ้าของฮ่องกง กลายเป็นโชว์แสงสีเสียงที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ในยามค่ำคืนเลยก็ว่าได้ การแสดง Symphony of Lights นี้จะแสดงทุกวันเวลา 20.00 น. ใช้เวลา 15 นาทีในการแสดง จุดที่ชมการแสดงนี้ได้สวยที่สุดเราขอแนะนำที่ Kowloon Public Pier ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับหอนาฬิกาของฮ่องกงนั่นเอง รองลงมาคือบริเวณ Avenue of Stars ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรอยประทับฝ่ามือของเหล่าดารา Hollywood หลายๆคนนั่นเอง
ส่วนใครสายช๊อปปิ้ง เมื่อจบการแสดงแล้ว อย่าลืมแวะช๊อปปิ้งกันต่อบริเวณ Tsim Sha Tsui นี้ด้วยล่ะกัน ที่นี่มีสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย เครื่องสำอางคุณภาพดีและราคาถูก รวบรวมไว้ให้ช๊อปกันหมดเลย!
5) Wong Tai Sin Temple – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีเขียว ลงสถานี Wong Tai Sin ทางออก B
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Wong Tai Sin Temple
“วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple)” เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฮ่องกง ด้วยตัวอาคารของวัดที่มีสถาปัตยกรรมซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิเต๋า ศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื้อ ผสมผสานวัฒนธรรมจนเกิดความสวยงาม รวมทั้งมีซุ้มประตูทางเข้าที่สุดยิ่งใหญ่อลังการ จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมาก นิยมเดินทางมาที่นี่ เพื่อกราบไหว้ขอพรกับพระหวังต้าเซียน เพราะเชื่อว่าพระหวังต้าเซียนที่แต่ก่อนเคยเป็นคนเลี้ยงแกะ แต่สามารถบำเพ็ญเพียรภาวนา จนได้เป็นพระโพธิสัตว์นั้น มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก มีอิทธิฤทธิ์ด้านการดูแลรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หากขอพรสิ่งใดแล้วก็จะสมปรารถนาทุกประการ ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้วัดหวังต้าเซียนแห่งนี้ มีชื่อเสียงในด้านการเสี่ยงเซียมซีที่สุดแม่น! อีกทั้งยังสามารถผูกด้ายแดงหาเนื้อคู่กับเทพเจ้าแห่งความรัก หยุคโหลว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดีอีกด้วย!
6) Choi Hung Estate Basketball Court – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีเขียว ลงสถานี Choi Hung ทางออก C3 ให้เดินเข้ามาภายในอาคารจอดรถชั้น 3 ก็จะเจอกับสนามบาสเก็ตบอล
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Choi Hung Estate Car Park
“Choi Hung Estate” เป็นแฟลตสำหรับพักอาศัย อยู่ในย่านเกาลูน ที่นี่คือจุดถ่ายรูป Instagram Check-in สุดฮิตของฮ่องกง ด้วยสีสันของสนามบาสเก็ตบอลอันสดใส มีอาคารที่พัก ที่มีรูปทรงและสีสันดั่งสายรุ้งเป็นฉากหลัง ที่นี่จึงกลายเป็นจุดที่มีผู้คนสนใจมาถ่ายรูปอวดเหล่า Social กันมากมาย สีสันเก๋ไก๋วัยรุ่นชอบกันมาก!
7) Apple Store, IFC Mall – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีเขียวเข้มหรือสีส้ม ลงสถานี Hong Kong ทางออก F
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Apple ifc mall
เอาใจเหล่าสาวก Apple กับ “Apple Store” สาขา IFC Mall ที่นี่เป็น Apple Store สาขาแรกของฮ่องกง จุดเด่นของที่นี่ นั่นก็คือ ตัวร้านค้านั้น จะเป็นกระจกใสตั้งอยู่บนทางเชื่อมพาดผ่านถนน มีโลโก้ Apple สีขาวใหญ่ๆ ลอยเด่นมาแต่ไกล ภายในนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นชั้นขาย iPhone iPad และ Apple Watch รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆของทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์นั้น ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นโซนของ Mac และอุปกรณ์เสริมของ Mac ที่หรูหรา สวยงาม และมีระดับ!
8) Hong Kong Observation Wheel – ที่เที่ยวฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีเขียวเข้มหรือสีส้ม ลงสถานี Hong Kong ทางออก F
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Hong Kong Observation Wheel
ใครอยากนั่งชมวิวอ่าววิคตอเรียและเมืองฮ่องกงแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ “ชิงช้าสวรรค์ฮ่องกง (Hong Kong Observation Wheel)” ซึ่งชิงช้าสวรรค์ที่นี่มีความสูง 60 เมตร มีกระเช้าบนชิงช้าทั้งหมด 42 อัน โดยแต่ละอันจะนั่งได้ประมาณ 8 คน สามารถนั่งชมวิวได้ถึง 3 รอบ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วล่ะก็ วิวเมืองฮ่องกงนี้สวยงามสุดๆไปเลย!
แนะนำที่พักย่านมงก๊ก ฮ่องกง …
1) Harbour Hotel, Mong Kok – ที่พักฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีแดงหรือสีเขียว ลงสถานี Mong Kok ทางออก E1
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Harbour Hotel
เราเลือกที่จะพักกับ “Harbour Hotel” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ Mong Kok นั่นเอง ที่นี่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Mong Kok เพียงแค่ 450 เมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าโรงแรมนี้ อยู่ใจกลางย่านช๊อปปิ้งของ Mong Kok เลยล่ะ อีกทั้งบริเวณโดยรอบโรงแรมนั้น ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ มากมายอีกด้วย และพนักงานของที่นี่ ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว และให้บริการดีมาก เราเข้า Check-in เวลาประมาณเกือบบ่าย 4 โมงเย็นได้ ที่นี่จะได้คีย์การ์ดเข้าห้อง 2 ใบ มีค่ามัดจำคีย์การ์ดประมาณ 100 HKD โดยจะได้ค่ามัดจำคืน เมื่อเราคืนคีย์การ์ดทั้ง 2 ใบ ในวันที่เรา Check-out และที่สำคัญ โรงแรมนี้มีลิฟท์ส่วนตัวของโรงแรมไว้ให้บริการอีกด้วย!
เราจองห้องพักเตียงคู่ไว้ผ่าน Booking.com ซึ่งเราได้ห้องพักอยู่ชั้น 5 โดยห้องพักที่เราจองนั้น จะเป็นห้องพักที่มีห้องน้ำในตัว แต่ภายในห้องพักนั้นค่อนข้างแคบมาก มีเตียงขนาด 3 ฟุต 2 เตียง โต๊ะอ่านหนังสือ 1 ชุด ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ 1 ตู้ รวมทั้งผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงฟัน เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ รองเท้าผ้า ไดว์เป่าผม น้ำชา กาแฟ กาต้มน้ำ และน้ำดื่มอีก 2 ขวด!
รวม 2 ร้านอาหารสุดแสนอร่อยในฮ่องกง …
1) Sea View Congee – ร้านอาหารฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีแดงหรือสีเขียว ลงสถานี Mong Kok ทางออก D2
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Sea View Congee #1
ร้านโจ๊กมื้อเช้าสุดแสนอร่อยที่ “Sea View Congee” ที่นี่ผู้คนแน่นมาก บางครั้งถึงกับต้องยืนต่อคิวกันเลยทีเดียว ร้านนี้มีโจ๊กให้เราเลือกทานหลากหลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็น หมู เครื่องใน เลือด หรือไข่เยี่ยวม้า ก็มีหมด มีเมนูภาษาอังกฤษให้เลือก สะดวกสบายพอสมควร ทีเด็ดของโจ๊กร้านนี้คือ ต้องกินคู่กับปาท่องโก๋อันใหญ่ยักษ์! โดยเราขอเตือนไว้ก่อนว่า ทั้งโจ๊กและปาท่องโก๋ของร้านนี้นั้น มันใหญ่มาก! หากมา 2 ท่าน ให้สั่งโจ๊กคนละชาม แล้วสั่งปาท่องโก๋ตัวเดียวก็พอล่ะ อย่าละโมบโลบมากเหมือนเรานะ! ฮ่าๆๆ
เราสั่งเมนู โจ๊กหมูใส่ไข่เยี่ยวม้า ซึ่งรสชาตินั้นอร่อยมากๆเลย! โจ๊กนั้นจะหอมและนุ่มมาก เนื้อโจ๊กไม่จืดมากจนเกินไป มีความมันอร่อยของไข่เยี่ยวม้านิดหน่อย รสชาติโดยรวมนั้น เรายกนิ้วให้เลย อร่อยมาก!
และนี่ก็คือ ปาท่องโก๋ ชิ้นใหญ่ยักษ์ นั่นเอง ปาท่องโก๋ของที่นี่ 1 ชิ้น สามารถตัดแบ่งได้เป็น 3 ท่อนใหญ่ๆ เลยล่ะ ลืมปาท่องโก๋ชิ้นเล็กๆของเมืองไทยไปได้เลย เราเตือนแล้วนะว่าปาท่องโก๋ของร้านนี้นั้น มันใหญ่มากจริงๆ! หากมา 2 คน ให้สั่งปาท่องโก๋ตัวเดียวก็พอล่ะ เดี๋ยวจะกินไม่หมดเหมือนเรา! สั่งกันมาคนละตัว! เรานี่แอบเก็บใส่กระเป๋าแทนไม่ทัน! ฮ่าๆๆ
2) Majesty Chinese Restaurant – ร้านอาหารฮ่องกง
การเดินทาง ; MTR สายสีแดงหรือสีเขียว ลงสถานี Mong Kok เดินออกที่ทางออก E1 ถึงเลย ร้านอยู่ทางซ้ายมือบนตึก Wu Sang House ชั้น 3
Google Maps (GPS) ค้นหาคำว่า ; Majesty Chinese Restaurant
หากตั้งใจมากิน เป็ดปักกิ่ง แบบต้นตำรับ ที่ฮ่องกงแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำร้าน “Majesty Chinese Restaurant” ที่นี่ มีเป็ดปักกิ่ง 1 ตัว ราคาแค่ 68 HKD ไว้ให้บริการ (ราคาไม่ผิดแน่นอนครับ แค่ 68 HKD เท่านั้น) แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องมาทานเฉพาะช่วงเวลา 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่มเท่านั้น เมนูเป็ดปักกิ่งที่นี่ หนังเป็ดจะหนา กรอบ และเหนียวเล็กน้อย แผ่นแป้งก็จะหนาตามไปด้วย ผิดกับแผ่นแป้งที่เมืองไทยนั้นจะบางมากๆ สำหรับรสชาตินั้น ก็คล้ายๆเมืองไทยนะ แต่ที่นี่จะมันๆกว่า น้ำมันนี่เยิ้มเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากแน่นอน!
เมนู หมูกรอบ ของที่นี่นั้นจะกรอบมากๆ เมื่อนำไปจิ้มกับน้ำจิ้มเหลือง จะออกรสเปรี้ยวหน่อยๆ แต่ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว! หากใครได้มาร้านนี้ ก็อย่าลืมสั่งเมนูหมูกรอบ มาทานเล่นรองท้องกันดูซักจานสองจานก็ได้!
อาหารจานนี้เราจำชื่อไม่ได้ล่ะ แต่อารมณ์ประมาณ ราดหน้าหมูทรงเครื่อง เหมือนบ้านเราเลย รสชาตินั้นแอบอร่อยเหมือนกันนะ เนื้อหมูจะนุ่ม เมื่อนำมากินคู่กับเส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่มๆ จะเข้ากันได้เป็นอย่างดี ถือว่าอร่อยกลมกล่อม ไม่จืดไม่เค็ม กำลังดี!
หากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ที่เที่ยว (ต่างประเทศ) ของ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่