SEAnery Beach Resort ความสุขของครอบครัวเริ่มต้นได้ที่นี่
SEAnery Beach Resort (ซีเนรี่ บีช รีสอร์ท) ที่พักพูลวิลล่า ติดทะเลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปพักกันมายัง ?
จะเที่ยวกับใคร ก็ไม่สุขใจ เหมือนไปกับ “ครอบครัว” ทริปนี้ ไป กัน มา ยัง เอาใจคนรักครอบครัว กับทริปเติมเต็มความสุขและเสียงหัวเราะให้กับสมาชิกในครอบครัว ด้วยการพาลงทะเลภาคใต้ ณ SEAnery Beach Resort บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3 วัน 2 คืน กับกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำด้วยกัน การเล่นน้ำทะเลด้วยกัน การดำน้ำดูปะการังเกาะทะลุร่วมกัน การสังสรรค์ปาร์ตี้บาร์บีคิวริมทะเลร่วมกัน และที่สำคัญ การได้นั่งกินข้าวเม้าส์มอยด์กัน ได้เติมเต็มความรักความอบอุ่นและความห่วงใยให้กันและกัน จะกลายเป็นความสุขใจอย่างบอกไม่ถูกมากจริงๆ
ทริปนี้เริ่มต้นจาก ครอบครัวของเรามีวันหยุดตรงกันโดยมิได้นัดหมาย พวกเราจึงลงความเห็นกันว่าจะออกไปเที่ยวทะเลด้วยกัน กับโจทย์ของน้องชายที่ว่า อยากได้ที่พักติดทะเลสวยๆ สงบและร่มรื่น มีสระว่ายน้ำกว้างๆ มีจัดปาร์ตี้ริมชายหาดได้ และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ส่วนแม่เรานั้นต้องการที่พักที่มีร้านค้าร้านอาหารสะดวกและครบครัน ไม่ต้องออกไปหาทานข้างนอกให้วุ่นวาย แต่สำหรับพ่อเรานั้นกลับอยากไปดำน้ำดูปะการังสวยๆ ว่ายน้ำทะเลให้ชื่นใจ จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องหาที่พักให้ลงตัวกับความต้องการของทุกคนในครอบครัว เพื่อให้ Family trip ของพวกเราในครั้งนี้นั้น กลายเป็นทริปที่มีความสุขที่สุดในโลกไปเลย
เราค้นหาที่พักอยู่นานด้วย Google บ้าง และ Agoda บ้าง จนมาเจอที่พักหนึ่งที่ตอบโจทย์ของพวกเราทั้ง 4 คน นั่นก็คือ SEAnery Beach Resort ซึ่งตั้งอยู่ ณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 380 กิโลเมตร พวกเราตัดสินใจจองเข้าพักที่นี่ด้วยห้อง Family 4 ท่าน จำนวน 1 ห้อง เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน พอถึงวันเดินทาง พวกเราก็ขับรถ Honda City ไปกันเอง ขับไปชิวๆ มีแวะข้างทางบ้าง ใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงรีสอร์ท
พวกเรามาถึงก่อนเวลาเช็คอินกันนิดหน่อย จึงถือโอกาสเดินเยี่ยมชมตัวรีสอร์ทกันก่อนเลย เมื่อเดินออกจาก Lobby สิ่งแรกที่เราจะเห็นก็คือลานระเบียงไม้สำหรับชมวิวกว้างๆ ณ มุมๆนี้ เราจะเห็นสระว่ายน้ำส่วนกลางที่ใหญ่โตและสวยงามมาก แอบมองเห็นวิวทะเลไกลๆออกไปอีกด้วย ข้างๆกันนั้นก็จะมีบ้านพักสีขาวๆเป็นหลังๆ ยอมรับเลยว่าพวกเราตกตะลึงในความสวยงามของวิวมุมนี้มากจริงๆ ต่างคนต่างแอบรัวเซลฟี่อวดโซเชี่ยวกันแบบไม่หยุดหย่อนเลยก็ว่าได้!
พวกเราเดินลงมาในบริเวณโซนบ้านพักกันบ้าง ที่นี่มีห้องพักแบบ Pool Villa และห้อง Suite ให้เลือกมากถึง 20 กว่าห้อง ส่วนบรรยากาศภายในรีสอร์ทนั้นเงียบสงบและร่มรื่นมาก มีต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวชอุ่มสดใส ประดับประดาด้วยต้นมะพร้าวเล็กใหญ่ มีทางเดินลงไปสู่ทะเลอย่างสวยงาม
พวกเราเดินลงมาบริเวณโซนบ้านพักแบบ Pool Villa กันบ้าง ที่นี่มีห้องพักแบบ Pool Villa มากถึง 6 ห้อง จะเป็น Pool Villa สำหรับ 2 หรือ 4 ท่านก็มีให้เลือกอย่างครบครัน ใครอยากฟินเพิ่มขึ้นไปอีก พวกเราขอแนะนำห้อง Pool Villa with Beach Front หรือ Sea View เลยยิ่งดี แค่คิดก็ฟินมากแล้วจริง!
ที่ใจกลางรีสอร์ทนั้นเป็นที่ตั้งของห้องอาหาร The Sea ที่นี่เป็นห้องอาหารสไตล์โมเดิร์นสีขาวสะอาดตา ชั้นบนของห้องอาหารถูกออกแบบให้เป็นชั้นดาดฟ้าสำหรับชมวิวทะเล พวกเรายอมรับเลยว่าการออกแบบของที่นี่สวยงามและลงตัวกับธรรมชาติเป็นอย่างที่สุด!
บรรยากาศภายในห้องอาหาร The Sea นั้น ถูกตกแต่งด้วยโต๊ะเก้าอี้สีดำแดงสลับกันไป ที่สำคัญห้องอาหารนี้สามารถมองเห็นทะเลสีฟ้าครามอีกด้วย หากได้นั่งทานข้าวไป ชมวิวทะเลไปด้วย คงจะฟินสุดๆไปเลย!
หลังจากเดินชมรีสอร์ทกันได้สักพัก พวกเราก็กลับมารอเวลาที่ Lobby กันต่อ ที่นี่เน้นการตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลตัดกับโครงเหล็กสีดำบนผนังสีขาว มีเก้าอี้หวายสีดำพร้อมเบาะนวมนั่งสีน้ำตาล สวยเข้ากันได้เป็นอย่างดี มีการเปิดเพลงคลอเบาๆ เมื่อฟังแล้วสบายใจมาก เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างที่สุด สำหรับพวกเรานั้นก็กำลังสนุกกับเกมส์ ROV ที่น้องชายตัวดีกำลังสอนให้พ่อกับแม่เล่นแข่งกัน ฮ่าๆๆ
เรานั่งเล่นเกมส์กันอยู่สักครู่ ห้องพักเราก็เสร็จพร้อมให้บริการ ทริปนี้เราเข้าพักห้อง Suite with Kitchen แบบ Pool side ที่นี่จะมี Keycard ให้เราไว้ใช้เปิดปิดประตู 2 ใบ ห้องทุกห้องของที่นี่ต้องใช้ Keycard เปิดปิดเท่านั้น ค่อนข้างปลอดภัยพอสมควร!
เราเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก ก่อนจะพี่ๆพนักงานจะช่วยเข็นประเป๋าของพวกเราเข้ามาในห้อง พี่ๆพนักงานที่นี่ใจดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายกันตลอด ช่วยยกของนั่นนี่ ดีสุดๆไปเลย
ในส่วนของห้องพักเรานั้น จะถูกตกแต่งด้วยสีขาวตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีไม้ ดูสะอาดตาและโมเดิร์นเป็นอย่างที่สุด ภายในห้องนั้นถูกแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โซนแรกก็คือห้องนอนที่มีเตียงคิงไซค์ 6 ฟุต เก้าอี้นั่ง โต๊ะวางของ โคมไฟ ไดว์เป่าผมและกระจก ถัดไปเป็นโซนห้องน้ำและห้องแต่งตัว ที่นี่มีชุดอาบน้ำให้ด้วย ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet ร่ม ตะกร้าใส่ผ้า ไฟฉาย ตู้เซฟ อ่างล้างหน้า Shower สำหรับอาบน้ำ สบู่ ยาสระผม และครีมนวดผม
ถัดไปจากห้องนอนก็จะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งมีบานเลื่อนกระจกกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ที่นี่มีโซฟาปรับเป็นเตียงนอนได้ไว้ให้บริการ มีโต๊ะเล็กวางเมนูอาหาร ทีวี โทรศัพท์ และชั้นวางของเล็กๆติดผนังข้างฝา
ด้วยความหิวมาก น้องชายกับแม่จึงยึดเมนูอาหารไปดูและโทรสั่งอาหารกันทันที ที่นี่มีบริการส่งอาหารถึงห้องพักด้วยนะ ให้ความเป็นส่วนตัวดีเยี่ยมมากเลย!
ระหว่างรออาหารที่น้องกับแม่ได้โทรสั่งไป พวกเราก็เลยไปรวมตัวนั่งดูทีวีรอกันไปพลางๆ ระหว่างนั้นก็เปิดช่องทีวีนั่นนี่ดูบ้าง แย่งช่องทีวีกันบ้าง อบอุ่นไปอีกแบบ!
คุณพ่อก็แอบมานั่งหลบมุมตอบอีเมล์ลูกค้ามั่ง ซึ่งฟรี Wifi ของที่นี่นั้น เน็ตเร็วมาก คุณพ่อนั่งส่งเมล์ได้หลายฉบับเลย!
ข้างๆห้องนั่งเล่นนั้นก็จะเป็นห้องครัว ที่นี่มีเคาเตอร์ครัว โต๊ะอาหาร ตู้เย็น กาน้ำร้อน น้ำชา กาแฟ ไว้ให้บริการฟรี ด้านในตู้เย็นจะมีเครื่องดื่ม น้ำเปล่า และน้ำอัดลม แช่ไว้เต็มตู้ เครื่องดื่มเหล่านี้คิดราคาตามจริงเป็นขวดเลย
การที่ห้องพักมีห้องครัวและเคาเตอร์ครัวนั้นพวกเราว่ามันสะดวกสบายมากเลยล่ะ เราสามารถทำอาหารเล็กๆน้อยๆได้ มีพื้นที่ปลอกผลไม้ที่พวกเราชอบได้ ถูกอกถูกใจคุณแม่มากจริงๆ
ห้องพักของพวกเรานั้นมีระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและทะเลด้วย บริเวณระเบียงนั้นจะมีเก้าอี้นั่ง 2 ตัวสำหรับนั่งชมวิวยามเช้า และมีราวตากผ้าเล็กๆ สำหรับตากเสื้อผ้าเปียกน้ำให้ด้วย เราว่าที่นี่เป็นบ้านขนาดย่อมๆเลยล่ะ มีบริการทุกอย่างครบถ้วนจริงๆ
หากเช้าวันใดที่ท้องฟ้าสดใส พวกเราขอแนะนำให้ออกมานั่งเล่นกันที่ระเบียง และชมวิวทะเลไป มองท้องฟ้าไป จิบกาแฟอุ่นๆร้อนๆซักแก้ว ถือได้ว่าเป็นการพักผ่อนแบบสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด!
ด้วยความที่ห้องพักเรานั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พวกเราจึงพักผ่อนในห้องพักกันนานพอสมควร ก่อนจะได้เวลาที่พวกเราจะเริ่มออกมาทำกิจกรรมร่วมกันแล้ว!
1) Swimming time ณ สระว่ายน้ำส่วนกลาง SEAnery Beach Resort
เรารีบเปลี่ยนชุดเป็นชุดว่ายน้ำออกมาเล่นน้ำด้วยกัน ที่บริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท สระว่ายน้ำที่นี่นั้นค่อนข้างสงบและไม่วุ่นวาย มีการแบ่งโซนสระน้ำสำหรับเด็กเล็กด้วย มีเก้าอี้ชายหาดให้เรานอนอาบแดดเยอะพอสมควร แต่สำหรับพวกเรานั้น คนที่ดูจะตื่นเต้นที่สุดสำหรับการว่ายน้ำในครั้งนี้ก็คือคุณพ่อ แกไม่รีรอที่จะกระโดดลงเล่นน้ำตั้งแต่เดินเข้ามาถึงสระน้ำเลย ฮ่าๆๆ
ที่บริเวณข้างๆสระว่ายน้ำนั้น จะมี Shower ให้อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระน้ำด้วย มุมนี้อยู่แอบอิงกับธรรมชาติเป็นอย่างที่สุด เราเห็นน้องชายเราล้างตัวอยู่นาน เลยขอแชะภาพมาฝากซะเลย แฮ่ๆๆ
การมาว่ายน้ำที่นี่นั้น เหมือนกับว่าเราได้มาว่ายน้ำท่ามกลางธรรมชาติเป็นอย่างที่สุด ด้วยบรรยากาศรอบๆสระว่ายน้ำนั้นจะมีต้นไม้ใบหญ้าโผล่ขึ้นมาสวยงาม พวกเรานั้นหามุมถ่ายรูปร่วมกันอยู่นานมาก โดยเฉพาะคุณพ่อนั้นจะให้ถ่ายภาพทุกอิริยาบถที่แกนั้นเคลื่อนไหว ฮ่าๆๆ
เราชอบสระว่ายน้ำของที่นี่ตรงที่เราสามารถมองเห็นน้ำทะเลอยู่ในระดับเดียวกันกับสระว่ายน้ำนี้เลย เหมือนกับว่าเรานั้นกำลังว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรเลยแหละ! ซึ่งมุมนี้น้องชายเราก็ชอบมากเหมือนกัน ชวนแม่ไปดูวิวคุยกันกุ๊กกิ๊กซะเพลินเลย!
มาดูความใสของสระว่ายน้ำกันมั่ง เรายอมรับเลยว่าสระว่ายน้ำของที่นี่นั้นน้ำใสมาก ภารกิจดำน้ำเก็บเหรียญของพวกเรานี่ง่ายเลยทีเดียว สามารถมองเห็นเหรียญตั้งแต่พวกเราเริ่มโยนเหรียญอยู่บนผิวน้ำแล้วอ่ะ!
เมื่อว่ายน้ำกันเสร็จแล้ว พวกเราก็เอาน้ำอัดลมจากตู้เย็นในห้องพักของพวกเรามาเติมพลังกันก่อน ความซ่าของแฟนต้าส้มนี้สดชื่นใจเป็นที่สุด หายเหนื่อยเป็นปริดทิ้งเลย!
2) Beach time ณ ชายหาดบริเวณด้านหน้าของ SEAnery Beach Resort
หลังจากที่พวกเราว่ายน้ำกันเสร็จ พวกเราจึงมาเดินชายหาดกันต่อเลย ที่นี่มีชายหาดที่ทรายค่อนข้างละเอียดมากพอสมควร น้ำทะเลก็สีเขียวอมฟ้าสดใส คลื่นลมก็สงบไม่แรงมาก ที่ชายหาดด้านหน้ารีสอร์ทของพวกเรานั้นจะมีเก้าอี้ชายหาดวางไว้ถึง 5 ตัว พวกเราชอบมานั่งพักเม้าส์มอยด์กันอยู่ตลอดเวลา และเรื่องที่พวกเราคุยกันนั้นก็คือ เรื่องตลกตอนที่พวกเราไปทะเลกันครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราคุยกันไป หัวเราะไป โดยเฉพาะน้องชายเรานี่หัวเราะลั่นดังมาก! ฮ่าๆๆ
พวกเราชอบการมานอนรับลมทะเลบริเวณนี้มากเลย ด้วยบรรยากาศยามเย็นที่แดดไม่ค่อยแรงมาก บวกกับมีลมทะเลพัดเย็นๆมาปะทะพวกเรานั้น พวกเราหลับตารับลมนั้นแบบรู้สึกดีมากจริงๆ เหมือนได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่สุดๆไปเลย!
พวกเราลงเล่นน้ำทะเลกันต่อเลย น้ำทะเลด้านหน้ารีสอร์ทของพวกเรานั้นใสมากพอสมควร น้องชายกับคุณพ่อนั้นลงเล่นน้ำกันอยู่นานมาก ไม่รู้ว่าแอบคุยอะไรกันบ้าง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันเป็นว่าเล่น!
บรรยากาศยามเย็นนั้นจะมีครอบครัวอื่นๆ พาลูกๆมาเล่นน้ำทะเลกันเยอะมาก บางคนเตรียมอุปกรณ์ตักหินดินทรายมาด้วย ดูทุกครอบครัวมีความสุขมากจริงๆ เราแอบมองไปจนต้องอมยิ้มมีความสุขไปด้วย เพราะขนาดครอบครัวเรายังมีความสุขมากเลย เราว่าครอบครัวอื่นๆที่พักในรีสอร์ทนี้ก็คงมีความสุขไม่ต่างจากพวกเรา!
บริเวณชายหาดแถวรีสอร์ทของพวกเรานั้น จะมีต้นมะพร้าวขึ้นเรียงรายกันเยอะมาก เราว่าต้นมะพร้าวกับทะเลเป็นของคู่กันอย่างลงตัว เพราะไม่ว่าเราจะถ่ายรูปมุมไหนมันก็สวยหมดทุกมุมจริงๆ ด้วยวิวต่างๆที่สวยงามมากมายขนาดนี้ พวกเราเดินเล่นชายหาดกันต่อจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีของพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน!
3) Dinner time ณ ห้องอาหาร The Sea SEAnery Beach Resort
หลังจากที่พวกเราอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ ก็ออกมาทานอาหารเย็นกันที่ห้องอาหาร The Sea ภายในรีสอร์ท ห้องอาหาร The Sea นั้นจะเปิดให้บริการตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจนถึง 3 ทุ่มของทุกวัน ที่นี่มีพี่ๆพนักงานต้อนรับพวกเราอย่างเป็นกันเองมาก บริการดีจนพวกเราประทับใจ สำหรับมื้อนี้เรายกให้พ่อกับแม่เป็นคนเลือกเมนูอาหาร แต่น้องชายเราก็แจมๆเลือกบ้าง เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมาก เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
เมนูแรกเราเลือก ต้มยำทะเลรวมน้ำข้น ที่นี่จะเสิร์ฟเมนูนี้มาในหม้อต้มขนาดกลาง หน้าตาหน้ากินพอสมควร เมนูนี้พ่อชิมก่อนเป็นคนแรกก่อนจะยกนิ้วเยี่ยมให้พวกเราชิมตาม ซึ่งเราว่ามันแซ่บมากๆเลย รสชาติต้มยำนั้นเข้มข้นมากจริงๆ ยิ่งได้กินกับพริกแห้งทอดแล้วล่ะก็ เผ็ดและเปรี๊ยวจี๊ดจ๊าดกำลังดี!
เมนูที่สองเป็น ห่อหมกทะเลรวม เมนูนี้พวกเราขอแนะนำว่าต้องลองชิมเพราะมันอร่อยมากจริงๆ ความหอมมันกำลังดี เมื่อกินคู่กับกุ้งและหมึกสดๆแล้วเข้ากันได้อย่างดีมาก ขนาดว่าแม่เราไม่ชอบกินอาหารมันๆ แกยังชมเลยว่าเมนูนี้อร่อยมากๆเลย!
ถัดมาเป็นเมนู ปลากะพงนึ่งมะนาว เมนูนี้ใช้ปลากะพงขนาดกำลังดีนึ่งด้วยน้ำมะนาวที่เผ็ดกำลังพอดี กินพร้อมซดน้ำอร่อยเหมือนกัน เราชอบการตกแต่งจานของเมนูนี้มาก สวยใช้ได้เลยล่ะ และอีกเมนูหนึ่งที่เราแนะนำนั่นก็คือ ยำวุ้นเส้นทะเลรวม เมนูนี้เด็ดพอสมควร เราว่าเป็นยำวุ้นเส้นที่อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยกินมาเลยล่ะ! ซึ่งน้องชายเราก็เห็นด้วยอย่างนั้นเหมือนกัน!
4) Snorkel time ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ณ เกาะทะลุ
หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ พวกเราก็รีบเข้านอนกันเลย เพราะวันพรุ่งนี้เราจะไปทำกิจกรรมดำน้ำดูปะการังที่เกาะทะลุร่วมกัน ตื่นเช้ามา พวกเราก็รีบอาบน้ำแต่งตัวและออกไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ หลังจากนั้นก็ออกไปดำน้ำดูปะการังร่วมกัน!
กิจกรรมดำน้ำดูปะการังในครั้งนี้ พวกเราจองทัวร์ของ Suchart Diving Tour กับทางรีสอร์ทไว้ ซึ่งสามารถให้ทางรีสอร์ทจัดการจองให้ได้ด้วย เมื่อถึงเวลา 08.30 น. ก็จะมีรถกระบะของสุชาติทัวร์มารับเราถึงหน้ารีสอร์ทเลย สะดวกสบายมากจริงๆ
เรือของสุชาติทัวร์นั้นเป็นเรือขนาดกลาง ทริปนี้มีครอบครัวอื่นๆมาร่วมทริปกับพวกเราอีก 4 ครอบครัว เรือใช้เวลาเดินทางไปเกาะทะลุประมาณ 45 นาทีก็ถึง ระหว่างทางก็จะมีพี่ๆ Staff ของเรือมาคอยแนะนำการใช้หน้ากาก Snorkel และข้อห้ามต่างๆด้วย บนเรือจะมี Welcome drink เป็นน้ำอัดลมเย็นๆและมีแตงโมสีแดงหวานๆวางให้เราได้หยิบกินตลอดทาง!
เมือเรือมาถึงเกาะทะลุ พี่ๆ Staff ก็จะแนะนำประวัติให้พวกเราทราบกันคร่าวๆ หลังจากนั้นก็จะจอดเรือให้พวกเราได้ถ่ายรูปคู่กับเกาะทะลุกันอยู่ชั่วครู่ พ่อกับแม่เรานั้นตื่นเต้นใหญ่เลยที่ครั้งหนึ่งได้มาเห็นเกาะทะลุกับตาตัวเอง ฮ่าๆๆ
ถัดมาจากช่องเขาทะลุนั้น ก็จะเป็นจุดดำน้ำดูปะการังจุดแรก ทริปนี้สุชาติทัวร์พาพวกเรามาดำน้ำดูปะการังทั้งหมด 2 จุด โดยแต่ละจุดนั้นก็จะมีพี่ๆ Staff คอยแนะนำบริเวณที่มีปะการังสวยๆให้ด้วย พอเรือจอดสนิท พวกเราก็ไม่รีรอที่จะกระโดดลงน้ำกันอย่างสนุกสนาน!
ขอแอบนินทาก่อนว่าคนที่ดูจะสนุกสนานที่สุดของการมาดำน้ำดูปะการังในครั้งนี้ก็คือคุณพ่อนั่นเอง แกจะคอยว่ายน้ำหาจุดที่มีปะการังสวยๆให้พวกเราไปดูกัน สำหรับเรากับน้องชายนั้นก็มีหน้าที่คอยประคองคุณแม่ที่กำลังกล้าๆกลัวๆกับการดำน้ำดูปะการังในครั้งนี้ ฮ่าๆๆ
ท้องทะเลของเกาะทะลุแห่งนี้ พวกเราว่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มากพอสมควรเลยล่ะ ที่นี่มีปะการังสีสันสวยๆมากมาย มีฝูงปลาน้อยใหญ่ว่ายน้ำไปมาอีกด้วย หรือแม้แต่หอยเม่นตัวเล็กใหญ่ก็มีเกลื่อนกลาดมากมาย นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเรามองเห็นปลาการ์ตูนว่ายน้ำเล่นปะการังด้วย น่ารักมากจริงๆ จากคุณแม่ที่กล้าๆกลัวๆ พอเจอปลาการ์ตูนแล้วตื่นเต้นใหญ่เลย จนลืมความกลัวไปหมดเลยล่ะ ว่ายน้ำมองหาแต่เจ้านีโม่อย่างเดียว ฮ่าๆๆ
พวกเราสนุกสนานมากกับการดำน้ำตามหาเจ้านีโม่ เป็นการว่ายน้ำที่เหนื่อยแต่ก็มีความสุขแบบบอกไม่ถูก! หลังจากเต็มที่กับการดำน้ำดูปะการัง พวกเราก็รีบขึ้นเรือมากินข้าวกล่องที่ทางสุชาติทัวร์เตรียมไว้ให้ เมนูที่เราได้นั้นเป็นข้าวผัดทะเลและไก่ทอด พวกเรากินกันไป คุยกันไป หัวเราะกันไป เล่าเรื่องตลกให้กันฟัง รู้สึกอบอุ่นและรักครอบครัวขึ้นมาทันทีทันใด!
5) Relaxing time ณ ชายหาดด้านหน้า SEAnery Beach Resort
เราขึ้นรถกระบะของสุชาติทัวร์กลับมาที่รีสอร์ท หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ พวกเราจึงชวนกันไปนั่งเล่นชิวๆรับลมทะเลที่ชายหาดด้านหน้ารีสอร์ทอีกครั้งหนึ่ง บรรยากาศวันนี้ท้องฟ้าค่อนข้างแจ่มใส น้ำทะเลก็เขียวมรกตน่าเล่นมากจริงๆ คลื่นลมวันนี้สงบเงียบพอสมควร พวกเราทิ้งตัวลงนอนบนเก้าอี้ชายหาดกัน มีลมเย็นๆพัดปะทะใบหน้าพวกเรามา ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆเลย!
พวกเราสั่งน้ำสตอว์เบอร์รี่โซดาเย็นๆจากห้องอาหาร The Sea มากินกันคนละแก้ว เมนูนี้หวานซ่าและเย็นชื่นอกชื่นใจซะเหลือเกิน พวกเรานั่งจิบไปมองทะเลไป นานแค่ไหนแล้วที่ครอบครัวของพวกเราจะได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันขนาดนี้ เราหลับตาคิดทบทวนถึงความสุขที่พวกเราได้ทำด้วยกัน ก็แอบน้ำตาซึมขึ้นมาทันทีทันได!
6) Bar B Q time ณ ชายหาดด้านหน้า SEAnery Beach Resort
ที่รีสอร์ทของเรานั้น จะมีบริการปาร์ตี้บาร์บีคิวริมชายหาดให้ด้วย หากใครอยากจัดปาร์ตี้แบบนี้ก็ให้แจ้งกับทางรีสอร์ทในวันที่เราจองได้เลย ทางรีสอร์ทจะจัดเตรียมเมนูอาหาร บาร์บีคิว และเตาย่างไว้ให้อย่างพร้อมเพียง และหลังจากที่พวกเราได้นั่งพักผ่อนชายหาดกันอยู่นาน ก็ถึงเวลาสังสรรค์ปาร์ตี้บาร์บีคิวมื้อค่ำของพวกเรากันซะที!
การจัดปาร์ตี้ริมชายหาดนั้น หากพวกเรามาในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ก็จะมีอาหารและเครื่องดื่มจากห้องอาหาร The Sea มาให้บริการด้วย พร้อมกับจะมีพี่ๆคอยมาช่วยพวกเราปิ้งย่างบาร์บีคิวอีกด้วย!
ที่นี่จะถูกเนรมิตให้เป็นห้องอาหารบนชายหาดที่สวยถูกใจพวกเรามากๆเลย ด้วยวิวทะเลที่สวยงามในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส พวกเราได้นั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ริมชายหาดเพื่อปิ้งย่างบาร์บีคิวกินร่วมกัน มันเหมือนฝันเลยจริงๆ ยิ่งได้มากับครอบครัวแล้วล่ะก็ ถือได้ว่าเป็นโอกาสดีที่พวกเราจะได้พูดคุยปรึกษาช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆร่วมกัน เราจึงแอบใช้โอกาสนี้แหละปรึกษาปัญหาชีวิตกับพ่อแม่ซะเลย เชื่อไหมว่าพวกท่านให้ข้อคิดเราดีมาก เราถึงกับน้ำตาคลออีกแล้วซะงั้น อะไรจะบ่อน้ำตาตื้นขนาดนี้ ว่าไหม ?
เราเคยฝันไว้ว่า ซักวันหนึ่งเราจะมาปิ้งบาร์บีคิวกินร่วมกันบนชายหาดติดทะเลสวยๆเหมือนในละคร วันนี้เราตั้งใจเต็มที่มากว่าจะปิ้งบาร์บีคิวให้พ่อแม่กิน แต่ภารกิจปิ้งย่างบาร์บีคิวในครั้งนี้ น้องชายเราขออาสามาปิ้งย่างให้ซะงั้น เรานี่จึงสบายเลยนั่งรอกินอย่างเดียวจ้า อิอิ!
บาร์บีคิวที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้นั้น ไม้จะโตๆหน่อย และมีให้เลือกทั้งหมูและเนื้อ ใครชอบแบบไหนก็เลือกสั่งกันได้เลย!
น้ำแดงโซดา เมื่อนำมากินคู่กับบาร์บีคิวปิ้งย่างอุ่นๆร้อนๆ จะเข้ากันได้อย่างลงตัว เมื่อปิ้งบาร์บีคิวกันเสร็จ พวกเราก็พร้อมจะลุยกินกันเลย!
พวกเรานั่งกินบาร์บีคิวกันจนถึงค่ำ บรรยากาศยามเย็นของรีสอร์ทนี้สวยมากจริงๆ เราจะค่อยๆเห็นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสียามตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า วันนี้พวกเรานั่งชมแสงยามเย็นกระทบต้นมะพร้าวสวยบาดใจเหลือเกิน พ่อกับแม่นี่ยิ้มเล็กยิ้มน้อยกันใหญ่เลย ส่วนเรากับน้องชายก็ช่วยกันหามุมถ่ายรูปสวยๆให้พ่อกับแม่ได้ถ่ายรูปคู่กันซักใบสองใบ!
7) Breakfast time ณ ห้องอาหาร The Sea SEAnery Beach Resort
หลังจากที่พวกเราอิ่มหนำสำราญกับปาร์ตี้บาร์บีคิวเมื่อยามเย็นของเมื่อวาน เช้าวันนี้พวกเราตื่นนอนกันแต่เช้าตรู่ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จก็พากันไปทานบุฟเฟต์อาหารเช้าที่ห้องอาหาร The Sea ที่เดิม วันนี้เป็นวันที่เราต้องเช็คเอ้าส์ออกจากรีสอร์ทแล้ว พวกเราจึงขอใช้เวลาเช้านี้ดื่มด่ำกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อยกันซะหน่อย!
พี่ๆพนักงานที่นี่ออกมาต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม พร้อมกับเตรียมเมนูไข่มาให้พวกเรา ที่นี่มีเมนูไข่ให้เราเลือกทานมากมาย เช่น ไข่ดาว ไข่เจียวใส้ต่างๆ และไข่คนสูตรพิเศษ พวกเราแต่ละคนก็เลือกเมนูไข่ให้แตกต่างกันออกไป สำหรับเรานั้นขอกินไข่ดาวให้อิ่มหนำสำราญซะหน่อย!
อาหารเช้าของที่นี่ จะถูกจัดให้เป็นแบบบุฟเฟต์ตักทานเอง ที่นี่มีแฮม เบคอน ไส้กรอก ขนมปังปิ้ง แพนเค้กราดน้ำผึ้ง นมสด น้ำส้ม น้ำชา กาแฟ และอื่นๆอีกมากมาย
เมนูข้าวก็มีให้เลือกมากมายเหมือนกัน ตั้งแต่ข้าวต้มหมูที่น้ำซุปอร่อยมาก ข้าวราดแกงข่าไก่ก็อร่อยไม่แพ้ใครเหมือนกัน!
ที่นี่มีผักสลัดสดๆหลายอย่างเลย มีน้ำสลัดหลายๆรสชาติ และมีโยเกิร์ตแช่เย็นๆให้เลือกมายมาย ตบท้ายด้วยผลไม้อย่างสับปะรดและแตงโมหวานๆ เลือกกินกันได้ไม่หมดเลยจริงๆ
หลังจากที่พวกเราทานอาหารเช้ากันเสร็จก็ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปคู่กับรีสอร์ทเป็นที่ระลึกกันนิดหน่อย จนถึงเวลาเช็คเอ้าส์กับทางรีสอร์ท พวกเราร่ำลาพี่ๆพนักงานและออกเดินทางกลับกรุงเทพฯกันเลย มีแวะซื้ออาหารทะเลแห้งกับของฝากติดไม้ติดมือกันซักเล็กๆน้อยๆตามข้างทาง สุดท้ายแม้ทริปของพวกเราจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ความประทับใจของพวกเรา ณ SEAneryBeach Resort นั้นยังมีอยู่เต็มเปี่ยมทุกห้องหัวใจ ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืนที่ผ่านมานั้น พวกเรามีความสุขมากมายผ่านกิจกรรมต่างๆที่พวกเราได้ทําร่วมกัน สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกได้จากทริปนี้คือ ความรักความอบอุ่นและความห่วงใยที่พ่อกับแม่มีให้เราและที่เรามีให้ท่านนั้นมันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะบรรยายได้จริงๆ เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นท่านยิ้มและหัวเราะ เราว่าความสุขนี้มันทําให้เราอิ่มเอมใจและตื้นตันใจเป็นที่สุด เพื่อนๆต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้นจึงจะเข้าใจว่าทำไมพวกเราถึง รู้สึกรักและผูกพันกันได้มากมายขนาดนี้!
ขอบคุณ SEAnery Beach Resort ที่ทําให้พวกเราได้ใกล้ชิดและผูกพันกันมากขึ้น สัญญาว่าเมื่อมีโอกาสพวกเราจะกลับมาเยี่ยมเยียนที่นี่ร่วมกันอีกแน่นอน!
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ …
SEAnery Beach Resort
100/2 หมู่ 1 ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77140
หมายเลขโทรศัพท์ 032-691352-5 มือถือ 098-8289968
อีเมล์ reservation@seanerybeach.com หรือ info@seanerybeach.com
เว็ปไซค์ของ SEAnery Beach Resort คลิกที่นี่
หรือหากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ที่พัก ของเว็ปไซค์ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่