Amara Bangkok Hotel โรงแรมสุดหรูใจกลางมหานคร
ใจกลางมหานครอันวุ่นวายของเมืองกรุง จะมีที่พักกายพักใจซักกี่แห่งกัน ที่ทำให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ ที่ซึ่งมีบริการเบ็ดเสร็จแบบครบครัน มีโลเคชั่นอยู่ใจกลางเมืองเชื่อมต่อได้ง่าย มีห้องอาหารบุฟเฟ่ห์สำหรับดินเนอร์สุดหรู มีสระว่ายน้ำลอยฟ้าชมเมืองอันกว้างใหญ่ มีค๊อกเทลปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำสุดชิคและชิว มีห้องนอนใหญ่ๆกับวิวตึกสูงสวยๆ มีฟิตเนสสำหรับออกกำลังกายยามเช้า และที่สำคัญมีเลานจ์นั่งเล่นกินอาหารว่างชิวๆตลอดงาน! ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น โรงแรม Amara Bangkok Hotel มีจัดไว้ให้อย่างครบครัน! ด้วยความตั้งใจในการให้บริการแบบทุกคนคือคนสำคัญ จึงมั่นใจได้ว่าใครก็ตามเมื่อเข้าพักที่ Amara Bangkok Hotel นั้น จะได้พบกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง!
ทริปนี้ เราเข้าพักกับโรงแรม Amara Bangkok Hotel เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ถือได้ว่าทริปนี้เป็นทริปที่เราได้พักผ่อนจริงๆ เพราะเมื่อเข้าพักที่นี่แล้วเราแทบไม่ต้องออกไปหาที่พักผ่อนนอกโรงแรมเลย เรียกได้ว่าเป็นการพักผ่อนแนวสโลว์ไลฟ์แบบที่ชาวต่างชาติเขาชอบทำกัน หากใครมีโอกาสได้มาที่นี่ เราขอแนะนำให้ตามรอยรีวิวเราดู แล้วจะรู้ว่า การได้พักผ่อนแบบสมบูรณ์แบบนั้นมันโคตรจะมีความสุขเลย!
ขอเกริ่นก่อนว่า โรงแรม Amara Bangkok Hotel นั้น ตั้งอยู่บนถนนสุรวงศ์ ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 250 ห้อง โดยในแต่ละห้องถูกตกแต่งแบบโมเดิร์นร่วมสมัย มีห้องน้ำและอ่างอาบน้ำที่หรูหราและมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีห้องอาหารและห้องประชุมสุดหรู รวมทั้งมี Sky Gym และ Sky Pool ให้เราได้ว่ายน้ำออกกำลังกายท่ามกลางวิวตึกมหานครซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย เรียกได้ว่า มาที่นี่ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันอย่างแน่นอน
สำหรับกิจกรรมต่างๆใน 2 วัน 1 คืน ของเรานั้น เราใช้เวลาทั้งหมดอยู่ภายในโรงแรมเพียงอย่างเดียวไม่ได้ออกไปไหนอีกเลยเมื่อเราเช็คอินเรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่อยาก Take a complete relaxation เหมือนเราแล้วล่ะก็ ตามรอยกิจกรรมของเราได้เลย!
1) Lunch buffet ณ ห้องอาหาร Element restaurant ชั้น B1
2) Afternoon tea with a view ณ Club lounge ชั้น 20
3) Swimming time ณ Sky pool ชั้น 26
4) Cocktail time ณ AkaAza rooftop bar ชั้น 26
5) Thai passion at Element ดินเนอร์สุดหรู ชั้น B1
6) Breakfast time ณ Club lounge ชั้น 20
7) Gym time ณ Sky gym ชั้น 22
เริ่มต้นด้วยการเดินทางมาโรงแรม Amara Bangkok Hotel
อีกหนึ่งเหตุผลที่เราเลือกใช้บริการเข้าพักกับที่นี่ นั่นก็คือ โรงแรม Amara Bangkok Hotel นั้น ตั้งอยู่ใจกลางมหานครบนถนนสุรวงศ์ซึ่งเชื่อมต่อได้ง่ายมาก หากใครเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS เราขอแนะนำให้ลงสถานีช่องนนทรีหรือศาลาแดง แต่สำหรับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ให้ลงสถานีสามย่าน แล้วเดินต่อมาที่ตัวโรงแรมอีกแค่ 700 เมตรเท่านั้นเอง แต่หากใครสะดวกนำรถส่วนตัวมาก็ให้ใช้ถนนพระราม 4 แล้วเลี้ยวเข้าถนนสุรวงศ์ก็จะเจอโรงแรมเลย เรียกได้ว่าที่นี่นั้นมีโลเคชั่นอยู่ใจกลางเมืองเชื่อมต่อได้ง่ายมากจริงๆ
Lunch Buffet ณ ห้องอาหาร Element Restaurant ชั้น B1
ห้องอาหาร Element Restaurant ชั้น B1 นั้น จะเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน โดยให้บริการอาหารเช้าเวลา 06.00-10.30 น. อาหารกลางวันเวลา 12.00-14.30 น. และอาหารเย็นเวลา 18.00-23.00 น. มีที่นั่งทั้งหมด 120 ที่นั่งแบ่งเป็นโซน Indoor และ Outdoor ที่นี่ไม่จำกัดว่าลูกค้าจะต้องมาพักที่โรงแรมนี้เท่านั้นถึงจะมาใช้บริการได้ หากใครอยากมากินเฉพาะบุฟเฟ่ห์มื้อกลางวันหรือมาทานเฉพาะดินเนอร์มื้อเย็นก็ได้เหมือนกัน เราแนะนำให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนเข้ามาทาน เพราะห้องอาหารนี้นั้นมีคิวจองบุฟเฟ่ห์ต่างๆเต็มติดต่อกันหลายสัปดาห์
เมื่อทำการเช็คอินเข้าพักโรงแรม Amara Bangkok Hotel เรียบร้อย เราเลือกที่จะมาทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ห์ ณ ห้องอาหาร Element ชั้น B1 ก่อนเลย ที่นี่มีอาหารสไตล์ไทย-สิงคโปร์ให้เราเลือกทานเยอะมาก หนึ่งเมนูเด็ดที่เราขอแนะนำนั่นก็คือ ข้าวมันไก่และข้าวหน้าเป็ดสิงคโปร์สูตรเด็ดสุดแสนอร่อย เนื้อไก่กับเนื้อเป็ดจะนุ่มมาก จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดเล็กน้อยอร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัว หากใครอยากกินแบบรวมมิตรแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองชิมหมูกรอบกับหมูแดงด้วย อร่อยไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว!
มาดูไลน์อาหารแนวอาหารซีฟู้ดกันบ้าง ซีฟู้ดที่นี่สดใหม่ทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย หรือปู ก็สดใหม่ทุกวัน เนื้อของเมนูซีฟู้ดแต่ละเมนูนั้นจะแน่นๆ ชิ้นโตๆ ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาวและกลิ่นเหม็นเลยแม้แต่น้อย!
เมนูขาหมูของที่นี่นั้นเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราขอแนะนำให้ลองชิมดู บอกก่อนว่าเมนูนี้ไม่มันและไม่เลี่ยนเลยแม้แต่น้อย หนังขาหมูจะกรอบมากๆ และไม่เหนียวเลย ส่วนเนื้อจะนุ่มๆ ยิ่งได้จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดซักเล็กน้อยแล้วล่ะก็ อร่อยสุดๆไปเลย!
อาหารปรุงสุกในหม้อก็อร่อยเช่นกัน รสชาตินั้นจะออกไทยๆปนสิงคโปร์เล็กน้อย กินกับข้าวสวยร้อนๆเข้ากันได้ดีอย่างลงตัว
เมนูอาหารไทยรสเด็ดอย่างยำถั่วพูเป็นเมนูที่นิยมมากของที่นี่ มีผู้คนมาตักทานตลอดไม่ขาดสาย สำหรับรสชาตินั้นจะออกหวานเปรี้ยวเผ็ดเล็กน้อยกำลังดี เมื่อกินคู่กับไข่ต้มยางมะตูมจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี!
ไลน์อาหารญี่ปุ่นที่นี่ก็มีเหมือนกัน ชูชิที่นี่นั้นชิ้นจะโตๆและเน้นเครื่อง รสชาตินั้นสดใหม่อร่อยถูกปากมากจริงๆ
มาดูไลน์อาหารของหวานกันมั่ง เริ่มต้นที่ขนมไทยที่หอมหวนชวนทานมาก และเค็กช๊อกโกแลตที่กินคู่กับท๊อปปิ้งผลไม้ซักเล็กน้อย จะอร่อยอย่าบอกใครเชียว!
Afternoon tea with a view ณ Club lounge ชั้น 20
เมื่อเช็คอินเรียบร้อย เราก็จะได้รับคีการ์ดมา 2 ใบ เราใช้คีการ์ดขึ้นมาบน Club lounge ชั้น 20 ก่อนเลย ได้ข่าวมาว่าชั้นนี้มีวิวตึกมหานครที่สวยงามมาก และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ที่นี่เป็น Club lounge สำหรับนั่งพักผ่อนมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor มุมๆหนึ่งที่เราชอบนั่นก็คือโซน Outdoor ทางด้านซ้ายของ Club lounge ซึ่งมุมนี้เราจะมองเห็นวิวตึกมหานครได้สวยที่สุดอีกด้วย
เราสั่งเมนูของว่างอย่าง Afternoon tea with a view มาชุดหนึ่ง เมนูชุดนี้ประกอบไปด้วย แซนวิสไส้ต่างๆ เค้กรสชาติต่างๆ ขนมคุกกี้ และขนมปังสโคน กินคู่กับชาอุ่นๆร้อนๆ พร้อมมองวิวตึกสวยๆไปด้วย เป็นการผ่อนคลายที่มีความสุขมากเหลือเกิน!
บน Club lounge แห่งนี้ มีขนมนมเนย ขนมขบเคี้ยว คุกกี้ น้ำชา กาแฟ และน้ำผลไม้เย็นๆหอมชื่นใจให้เราทานแบบฟรีๆอีกด้วย ซึ่งเราสามารถนั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ ดูทีวีได้ตามอัธยาศัย ถือได้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งบริการที่สร้างความประทับใจให้เรามากจริงๆ
ทุกวันในเวลา 16.00 น. บน Club lounge แห่งนี้ยังมีบริการอาหารว่างให้กับแขกทุกท่านอีกด้วย นอกเหนือจากขนมทานเล่นที่ให้ทานแบบฟรีๆได้แล้ว อาหารว่างเวลา 16.00 น. นี้ก็ทานได้แบบฟรีๆไม่อั้นอีกเหมือนกัน มีทั้งอาหารคาวอย่างลาบหมูยัดไส้ ขนมปังหน้าต่างๆ หรือจะเป็นของหวานอย่างคุกกี้ เค้ก รวมทั้งขนมไทย สุดท้ายยังมีผลไม้รวมมิตรหลากหลายชนิดให้เราเลือกทานกันได้ไม่อั้น!
ห้องพักแบบเอ็กเซ็กคิวทีฟ ชั้น 17 – Amara Bangkok Hotel
หลังจากเราอิ่มหนำสำราญกับอาหารว่างบน Club lounge เรียบร้อยแล้ว เราก็แวะเข้ามาดูห้องพักกันต่อเลย ห้องพักที่เราจองไว้ในทริปนี้คือห้องพักแบบเอ็กเซ็กคิวทีฟ ซึ่งอยู่บนชั้น 17 ภายในห้องนั้นกว้างขวางมาก กว้างแบบเรียกว่านอนกลิ้ง 3 ตลบได้เลย การตกแต่งภายในห้องนั้นเป็นการตกแต่งแบบโมเดิร์นร่วมสมัยเน้นการใช้สีขาวเป็นหลักสลับกับแสงไฟสีเหลืองนวล สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องนั้นมีอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้บิ้วอินยาวๆ สำหรับอ่านและเขียนหนังสือ มีโคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับเขียนอ่านหนังสือ 1 อัน มีเก้าอี้นวมกับโต๊ะกลมเล็กๆ 1 ชุดไว้สำหรับนั่งดูทีวี เตียงนอนเป็นเตียงคิงไซค์ 6 ฟุต มีโคมไฟสีเหลืองนวลบนหัวเตียง 2 อัน ปลายเตียงมีชุดทีวีบิ้วอินสวยๆ 1 ชุด ตู้เย็นเล็กๆ 1 ตู้ โต๊ะกระจกบิ้วอิน 1 ชุด ข้างๆชุดทีวียังมีเก้าอี้นวลบิ้วอินสามารถนั่งชมวิวภายนอกห้องได้เลย ที่สำคัญห้องนี้มองเห็นวิวตึกมหานครได้ชัดเจนมากด้วย!
มาดูห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำที่นี่กว้างขวางใหญ่โตและหรูหรามาก ภายในห้องน้ำเน้นการตกแต่งด้วยกระจกทั้งหมด มีห้องอาบน้ำแบบ Shower มีชุดบิ้วอินกระจกบานใหญ่ๆ มีอ่างอาบน้ำที่สามารถนอนแช่น้ำชมวิวตึกมหานครได้แบบชิวๆอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีชุดบิ้วอินตู้เสื้อผ้า มีชุดลำลองสำหรับอาบน้ำให้เปลี่ยน ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวรวมทั้งไดว์เป่าผมที่นี่ก็มีให้พร้อม เรียกได้ว่าเมื่อมาเข้าพักที่นี่นั้น มาตัวเปล่าก็ยังได้ อีกอย่างเสื้อผ้าที่เปียกน้ำสามารถส่งซักรีดได้ฟรีอีกด้วย เป็นบริการแบบทุกระดับประทับใจจริงๆ
Swimming time ณ Sky pool ชั้น 26
หลังจากเราเข้าพักในห้องพักได้สักครู่ก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดว่ายน้ำมาว่ายน้ำบนสระว่ายน้ำลอยฟ้า (Sky pool) ชั้น 26 ที่นี่มีสระว่ายน้ำวิวอินฟินิตี้ยาวตลอดชั้นดาดฟ้า เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ 08.00-20.00 น. มีเก้าอี้นอนพักผ่อนริมสระน้ำมากกว่า 20 ตัว มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวที่ระเบียง 3 โต๊ะ ที่สำคัญ Sky pool ชั้น 26 นี้สามารถมองวิวใจกลางมหานครได้ถึง 180 องศาเลยทีเดียว
หากใครต้องการความเป็นส่วนตัว เราแนะนำให้ตื่นนอนแต่เช้าตรู่แล้วลองมานั่งชมวิว ณ Sky pool ชั้น 26 นี้ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศดีจะรู้สึกสดชื่นมากทีเดียว!
แต่ช่วงยามเย็นในวันที่ท้องฟ้าแจ้มใส เราขอแนะนำให้อยู่บนชั้น Sky pool นี้จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ช่วงเวลานี้เราจะได้เห็นบรรยากาศของท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีต่างๆก่อนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า สวยงามมากทีเดียว!
Cocktail time ณ AkaAza rooftop bar ชั้น 26
ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป บน Sky pool ชั้น 26 แห่งนี้จะถูกเนรมิตรให้เป็น AkaAza rooftop bar ให้บริการเครื่องดื่มและค๊อกเทลจนถึงเวลาตีหนึ่ง ที่จริงบน Sky bar นี้เปิดให้บริการเครื่องดื่มตลอดทั้งวันตั้งแต่เวลา 08.00-01.00 น. แต่ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จะมีการจัดวางชุดโต๊ะและเก้าอี้นวมสำหรับบริการเครื่องดื่มต่างๆอีก 30 ที่นั่ง ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้ลองสั่งค๊อกเทลมาจิบเล่นๆชิวๆ จะดื่มไปด้วยว่ายน้ำไปด้วยหรือจะแค่นั่งชมวิวสวยๆก็ได้เหมือนกัน
ค๊อกเทลนั้นจะนำมาเป็นพร๊อบถ่ายรูปคู่กับวิวสวยๆของสระว่ายน้ำลอยฟ้าท่ามกลางตึกสูงๆใจกลางมหานครก็ยังได้ ซึ่งก็มีหลายๆคนมาขอถ่ายรูปคู่กับค๊อกเทลของเรา และเราก็ใจดีให้ถ่ายกันทุกคนอีกด้วย!
บรรยากาศของ AkaAza rooftop bar ชั้น 26 ในยามค่ำคืน โรแมนติกสุดๆไปเลย ที่นี่นอกจากจะให้บริการเครื่องดื่มในทุกวันแล้ว ช่วงวันพิเศษต่าง เช่น วันวาเลนไทด์ ทางโรงแรมก็จะจัดงานให้คู่รักได้มาดินเนอร์สุดหรูอีกด้วย ใครสนใจติดตามโปรโมชั่นวันพิเศษๆแบบนี้ได้ที่เว็ปไซค์ของโรงแรมได้เลย
Thai passion at Element ดินเนอร์สุดหรู ชั้น B1
ถึงเวลาอาหารเย็น ณ ห้องอาหาร Element ชั้น B1 จุดเด่นก็คือจะเน้นเป็นอาหารสไตล์อาหารไทยแท้แบบดั่งเดิม คลาสสิกยอดนิยม หาทานได้ยาก และราคาย่อมเยาว์พอๆกับร้านด้านนอกอีกด้วย
เรารู้ประวัติมาคร่าวๆว่า ที่นี่จะเน้นการให้บริการอาหารไทยตามแรงบันดาลใจของผู้บริหารที่ชื่นชอบในอาหารไทยจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางอาหารของเอเชีย เชฟที่นี่จึงรังสรรค์อาหารไทยสูตรต้นตำรับที่มีหน้าตาที่น่าลิ้มลอง ส่วนรสชาตินั้นอร่อยหมดทุกเมนู เราคอนเฟิร์ม!
เมนูแรกที่เราสั่งกัน นั่นก็คือ ปลาแห้งแตงโม เมนูนี้เป็นการนำแตงโมสีแดงหวานๆมาราดด้วยปลาแห้งตำป่นโรยด้วยหอมแดงเจียวกรอบเล็กน้อย รสชาติจะหวานๆและเค็มหน่อยๆจากแตงโมและปลาแห้งป่นที่เราโรยลงไป อร่อยนะเราว่า!
เมนูถัดไปเป็นเมนูต้มยำไก่ใบมะขาม เมนูนี้เราชอบมาก เนื้อไก่ที่นี่จะนุ่มๆ ซดกับน้ำต้มยำใบมะขามจะเผ็ดๆเปรี้ยวๆ จี๊ดจ๊าดได้ใจสุดๆไปเลย!
เมนูถัดไปเป็นเมนูแกงกะหรี่ไก่ เมนูนี้เราจะได้ลิ้มรสหวานๆมันๆของน้ำกะทิ ซึ่งเมื่อกินกับเนื้อไก่และมันฝรั่งแล้วจะหอมนุ่มไม่เลี่ยนเลยแม้แต่น้อย!
เมนูที่ 4 นี้นั่นก็คือ ผัดไทยกุ้งสด เมนูนี้เราขอแนะนำว่าอร่อยมาก เส้นผัดไทยนั้นเหนียวนุ่มมาก กินกับกุ้งสดๆและไข่ห่อบางๆ บีบราดน้ำมะนาวซักเล็กน้อยโคตรเด็ดบอกเลย!
มาถึงเมนูที่ 5 นั่นก็คือ ฉู่ฉี่กุ้ง เมนูนี้เราจะได้ลิ้มลองกับกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ผัดรวมกับน้ำฉู่ฉี่ที่หอมหวานเผ็ดหน่อยๆ บอกได้คำเดียวว่า อร่อยสุดๆไปเลย!
เมนูสุดท้ายเอาใจคนรักน้ำพริก กับเมนูน้ำพริกไข่ปู เมนูนี้กินคู่กับปลาแดดเดียวทอดกรอบและไข่เค็ม แกล้มด้วยผักสดๆและแตงกวาซักเล็กน้อย อร่อยจนเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!
มาถึงเมนูของหวานกันบ้าง เราขอแนะนำเมนูไอศกรีมกะทิ เนื้อไอศกรีมของที่นี่นั้นจะเหนียวนุ่ม กินคู่กับลูกชิด ทับทิมกรอบ มันฝรั่งและถั่วลิสงได้อย่างลงตัว เราว่าไอศกรีมกะทิของที่นี่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยล่ะ!
Breakfast time ณ Club lounge ชั้น 20
หลังจากอิ่มหนำสำราญกับเมนูดินเนอร์สุดหรู และก็เข้านอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ เช้านี้ เราตื่นเช้ามาทานอาหารเช้า บอกก่อนว่าที่นี่มีบริการอาหารเช้า 2 ที่ ที่แรกก็คือ ในห้องอาหาร Element ชั้น B1 จะมี Breakfast ให้เลือกทานหลากหลายมากและก็จะมีผู้คนมาทานกันค่อนข้างมากทีเดียว สำหรับอีกแห่งหนึ่งนั่นก็คือ บน Club lounge ชั้น 20 นั่นเอง ที่นี่จะมีอาหารให้เลือกทานน้อยกว่าแต่ผู้คนไม่ได้คับคั่งมากเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวพอสมควร และยังได้เห็นวิวตึกมหานครอีกด้วย สำหรับใครที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศของทั้ง 2 ที่ก็สามารถเข้าทานได้ทั้ง 2 ที่เช่นกัน แต่สำหรับเรานั้นขอเลือกที่จะทานบน Club lounge ชั้น 20 เพื่อต้องการความเป็นส่วนตัวและได้กินลมชมวิวใจกลางมหานครด้วยนั่นเอง
เมื่อมาถึงที่นี่ก็จะได้พบกับโซนขนมปังก่อนเลย ที่นี่มีขนมปังให้เลือกทานหลากหลายชนิดมาก ทั้งน้ำชาและกาแฟก็มีให้เลือกหลายอย่างด้วยเช่นกัน
มาดูไลน์อาหารกันบ้าง ที่นี่มีซาลาเปา ติ่มซำ ไส้กรอก ชีส แฮม แซลมอน ผักอบเครื่องเทศต่างๆ มันฝรั่ง สลัดผักต่างๆ ฯลฯ สำหรับเมนูไข่เจียว ไข่ดาว ไข่คนต่างๆก็มีให้เลือกสั่งหลายชนิดเลย ขนาดว่าที่นี่มีอาหารไม่มากเท่ากับห้องอาหาร Element ชั้น B1 นะ เราว่าเรายังกินแทบไม่หมดทุกเมนูเลย!
Gym time ณ Sky gym ชั้น 22
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ หลังจากรออาหารย่อยซักพัก เราก็ขอมาออกกำลังกายบน Sky gym ชั้น 22 ซะหน่อย ยิมที่นี่วิวสวยมากจริงๆ จะมีโรงแรมซักกี่แห่งกันที่ให้บริการยิมกับแขกที่เข้าพักทุกห้องแบบฟรีๆ เพื่อให้แขกผู้เข้าพักนั้นได้สัมผัสกับบรรยากาศวิวมหานครสวยๆ เชื่อไหมว่าเราวิ่งบนลู่วิ่งไป มองวิวไป ใส่หูฟังฟังเพลงไป เพลินหูเพลินตามากมายจริงๆ แอบหลงรักกรุงเทพมหานครขึ้นมาเลยทีเดียว!
เรากลับมาพักผ่อนที่ห้องพักต่อจนถึงเวลา 14.00 น. ซึ่งก็คือเวลา Check-out นั่นเอง เรามีความสุขมากกับการได้มาเข้าพักที่นี่ จะว่าไปแล้วก็ยังไม่อยากจะเช็คเอ้าส์ออกเลย เราชอบ Sky pool ของที่นี่มากๆ มันทำให้เราได้ว่ายน้ำไปมองวิวไกลๆสุดลูกหูลูกตา ทำให้เราได้ผ่อนคลายจนหายเหนื่อยเลยก็ว่าได้ ที่นี่เป็นที่แรกที่เรารู้สึกประทับใจและจะต้องกลับมาใช้บริการอีกเมื่อมีโอกาสอย่างแน่นอน!
ติดต่อสอบถาม Amara Bangkok Hotel ได้ที่ …
Amara Bangkok Hotel
Website :: https://bangkok.amarahotels.com
Tel :: +66 2 021 8888
Emai :: amarabangkok@amarahotels.com
หรือหากเพื่อนๆอยากดูรีวิวทั้งหมดเกี่ยวกับ ที่พัก ของ ไป กัน มา ยัง แล้วล่ะก็ … คลิกที่นี่